ก่อนหน้านี้ค่ายรถ MG ได้เปิดตัวรถยนต์ในไทยไป 2 รุ่นด้วยกัน ทั้ง MG3 และ MG6
ก่อนหน้านี้ค่ายรถ MG ได้เปิดตัวรถยนต์ในไทยไป 2 รุ่นด้วยกัน ทั้ง MG3 และ MG6
โดยล่าสุด MG ได้เปิดตัว MG5 เป็นเป็นรถที่ฉีกแนวไปจากรถตลาดทั่วไปเพราะ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงทุนขึ้นสายการผลิต MG5 GT ตัวถังซีดานคูเป้ แทนที่จะนำตัวถังปกติมาประกอบ ถ้ามองในแง่ดีของการตลาดก็ถือว่าพวกเขามองเกมทะลุกว่าที่เคยเป็น
MG5 ถูกวางตำแหน่งการตลาดลงในกลุ่มซับคอมแพคท์ ทั้งที่ขนาดตัวถังใหญ่กว่ารถ C-Segment ที่มีจำหน่ายในไทยหลายรุ่น นั่นก็ทำให้ MG5 สามารถชูจุดขายขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่า B-Segment ทั่วไป พร้อมเทคโนโลยีความจุดเด่นของการออกแบบตัวถังภายนอกของ MG5 คือ ตัวถังซีดานสไตล์คูเป้, กระโปรงหน้าแบบ V-Shape ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย พร้อมไฟ Daytime Running Lights (DRL) สะกดทุกสายตา ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมหลังคาซันรูฟที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วย เบาะหนัง พร้อมลิ้นชักเก็บของใต้เบาะด้านข้างคนขับ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง แสดงภาพจากกล้องมองหลัง เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
MG5 มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ
-เครื่องยนต์ TURBO 1.5 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 129 แรงม้า ที่5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,400 รอบต่อนาทีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ความปลอดภัยเทียบเท่ากับรถหรูขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีการสื่อสาร inkaNet
-เครื่องยนต์แบบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500รอบต่อนาที ทั้ง 2 เครื่องยนต์รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะพร้อมโหมด Sport และ Manual
MG5 อัดแน่นของระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบ 9 Integrated Active Safety Systems ที่เหนือกว่ารถซับคอมแพ็คคาร์ รุ่นอื่นๆ
-ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill Start Assist System)
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (TCS – Traction Control System)
-ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS – Anti-lock Braking System)
-ระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD – Electronic Brake Force Distribution)
-ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor control Slide Retainer)
-ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง(CBC – Curve Brake Control)
-ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (ITPMS – Indirect Tire Pressure Monitor System)
ระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic BrakeAssist) และ ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System) อีกด้วย
NEW MG5 จะเป็นรถยนต์รุ่นที่สองของ MG ที่ติดตั้งระบบ inkaNet เทคโนโลยีการสื่อสารอัจฉริยะระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ เอ็มจี ที่ทำงานบนเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย inkaNet ประกอบด้วย 7 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่ ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนความผิดปกติ เมื่อมีการเคลื่อนหรือสตาร์ทรถยนต์ ฟังก์ชั่นระบบนำทาง ผ่านทาง Google Map และช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามตำแหน่งของรถ และข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ฟังก์ชั่นระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์ ฟังก์ชั่นแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทั้งแบบรายสัปดาห์และแบบรายเดือน ฟังก์ชั่นระบบเลขาฯ ส่วนตัว ให้คุณติดต่อ MG CALL CENTRE เพียงปลายนิ้วสัมผัส และฟังก์ชั่นวางแผนการเดินทาง พิเศษสำหรับลูกค้า NEW MG5 จะได้รับสิทธิพิเศษสามารถเชื่อมต่อระบบ inkaNet ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือฟรีนาน 5 ปี
ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ NEW MG5 ยังจะได้รับความอุ่นใจกับการรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งครบระยะก่อน) บริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobility Services) เมื่อมีการโทรแจ้งนัดหมายบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง และบริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre)
ตลอด 24 ชั่วโมง
ราคาอย่างเป็นทางการ New MG5
NEW MG5 1.5 D 629,000 บาท
NEW MG5 1.5 X 679,000 บาท
NEW MG5 1.5 Turbo D 699,000 บาท
NEW MG5 1.5 Turbo X 739,000 บาท
แต่ภายในปี 2016 ราคาจะปรับขึ้น 20,000 บาท ตามภาษีรถยนต์ใหม่ปี 2559
หากใครสนใจสามารถแวะชมและทดลองขับ MG5 ได้ที่โชว์รูมทันทีหรือไปพบกันที่งาน Motor Expo 2015 ระหว่างวันที่2-13 ธันวาคมนี้ ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี