สำหรับวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวเราเลย โดยเฉพาะสมาชิกเต็นท์รถที่ลงประกาศขายรถยนต์บนเว็บไซต์รถยนต์มือสองของเรา โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนางสาวชลธิชา มารดาพิทักษ์ กับพวกรวม 4 คน ในข้อหา ฉ้อโกง หลังจากถูกหลอกซื้อดาวน์รถที่ผู้เสียหายประกาศขายผ่านทางเว็บไซต์
สำหรับวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวเราเลย โดยเฉพาะสมาชิกเต็นท์รถที่ลงประกาศขายรถยนต์บนเว็บไซต์รถยนต์มือสอง UNSEENCAR.COM ของเรา โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนางสาวชลธิชา มารดาพิทักษ์ กับพวกรวม 4 คน ในข้อหา ฉ้อโกง หลังจากถูกหลอกซื้อดาวน์รถที่ผู้เสียหายประกาศขายผ่านทางเว็บไซต์
โดยนางสาวราตรี หนึ่งในผู้เสียหายคดีดังกล่าว ได้เล่าว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาตนได้ลงประกาศขายรถยนต์มูลค่า 700,000 บาท ขายดาวน์ 50,000 บาท ทางเว็บไซต์ และมีชายคนหนึ่งได้มาติดต่อขอซื้อ โดยส่งนางสาวชลธิชา มาเป็นตัวแทนทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ ตกลงกันว่าอีก 15 วัน จะนำผู้ซื้อตัวจริง มาเปลี่ยนสัญญาซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของรถ แต่หลังจากนางสาวชลธิชาได้รถไปประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และนอกจากนี้ผู้เสียหายบางคนไปพบรถของตนถูกประกาศขายตาม Facebook เต็นท์รถ บางส่วนถูกส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งถูกนำไปใช้ก่อคดีอาชญากรรม หรือลำเลียงยาเสพติด
ด้านนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาแก๊งนี้ พบว่ามีหมายจับคดีฉ้อโกงถึง 4 หมาย และเป็นขบวนการฉ้อโกงเต็มรูปแบบ มีการทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายอำพราง เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีชั้นศาล เลี่ยงคดีอาญาเป็นคดีแพ่ง คาดว่ามีกลุ่มผู้มีสี นักกฎหมาย และเต็นท์รถมือสองหนุนหลัง จากนี้จะมีผู้เสียหายจากทั่วประเทศอีกกว่า 30 คนทยอยเข้าแจ้งความกับตำรวจในคดีเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ทางเราจึงนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพื่อที่ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์มือสอง หรือผู้ที่ลงประกาศขายรถยนต์ของตนเองจะได้รู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้ได้ จะได้ระวังระแวงไม่ให้เกิดความเสียหายเช่นนี้กับเราได้ครับ