จากค่ายยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ยนตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบาย สุนทรียภาพในการขับขี่ ได้พัฒนารถยนต์ที่มีชื่อว่า ซึ่ง ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าอนาคต ซึ่งรถพลังงานไฮโดรเจน 155 แรงม้า เติมทีเดียววิ่งได้ 483 กม. ขั้นตอนการเติมไฮโดรเจนนั้นก็ไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิด โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีต่อครั้ง ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในอนาคต ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งได้ต้นแบบมากจาก ซึ่งมีควา...
รถยนต์พลังงานน้ำจากค่ายยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ยนตรกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบาย สุนทรียภาพในการขับขี่ ได้พัฒนารถยนต์ที่มีชื่อว่า “โตโยต้า มิราอิ” ซึ่ง มิราอิ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าอนาคต ซึ่งรถพลังงานไฮโดรเจน 155 แรงม้า เติมทีเดียววิ่งได้ 483 กม. ขั้นตอนการเติมไฮโดรเจนนั้นก็ไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิด โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีต่อครั้ง ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในอนาคต ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งได้ต้นแบบมากจาก โตโยต้า FCV ซึ่งมีความสะดุดตาด้วยไฟหน้าที่เรียวเล็ก แต่ยาวปราดเปรียว กระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมู ไฟท้ายรูปสามเหลี่ยมคว่ำ พร้อมกับเส้นไฟสีแดงยาวตลอดแนว ทั้งยังประหยัดพลังงานกว่าระบบเครื่องยนต์เผาไหม้ และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ สารที่มีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์
ในส่วนของราคานั้นเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านบาท โดยมียอดจองในประเทศญี่ปุ่นทะลุเป้า แต่การผลิตนั้นใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 3 คันต่อวัน ซึ่งลูกค้าที่จองคิวในช่วงหลังนั้นอาจจะต้อรอรับรถนานข้ามปีกันเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากการพัฒนารถยนต์แล้ว ทางโตโยต้ายังได้รับความร่วมมือกับทางบริษัทพลังงานทั้งหลาย ในการพัฒนาโครงสร้างการใช้พลังงานไฮโดรเจน โดยจะเริ่มจากการลงทุนตั้งสถานีจ่ายไฮโดรเจนให้มากที่สุด ซึ่งเริ่มที่จำนวน 12 แห่งในสหรัฐฯ จากความร่วมมือของบริษัทพลังงานในสหรัฐฯ อีกด้วย
คุณสมบัติที่เพียบพร้อมของยานยนต์รุ่นใหม่นี้ ไม่เพียงจะประหยัดพลังงาน และเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกเท่านั้น การผลิตได้จากแหล่งต้นกำเนิดพลังงานที่หลากหลาย อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ยังมีความโดดนเด่นในเรื่องของดีไซน์ ประกอบกับการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยเสถียรภาพแห่งการควบคุมยานยนต์ที่เหนือกว่า ให้ความเงียบในขณะขับขี่ โดยมาจากศูนย์ถ่วงต่ำของรถ ปราดเปรียวทรงพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน เมื่อได้รับแรงอัด มวลความหนาแน่นของพลังงานไฮโดรเจนจะสูงกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า และมีความสะดวกในการเก็บรักษาด้านความสะอาด เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และคุ้มค่าที่สุด