มินิ ประเทศไทย พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่พร้อมมอบความสนุกบนทุกเส้นทาง และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แบบอังกฤษพันธุ์แท้ ในงาน MINI Expo 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นใน พร้อมเตรียมเผยโฉมที่สุดแห่งเทคโนโลยียานยนต์ในเซกเมนต์พรีเมียม คอมแพ็ค นำโดยไฮไลท์อย่าง MINI Cooper S Countryman รุ่นล่าสุดในสเปคใหม่ ปรับราคาใหม่ลงสูงสุดถึง 460,000 บาท พร้อมด้วยทัพรถยนต์ในตระกูลมินิมาจัดแสดงอย่างครบครัน
ยกทัพ MINI มาครบครันทั้งตระกูล ในมหกรรม MINI Expo 2018
ภายในงาน MINI Expo 2018 ทุกท่านจะได้พบกับยนตรกรรมระดับพรีเมียมจากมินิอย่างเต็มรูปแบบกว่า 17 รุ่น อาทิ MINI Cooper S Countryman รุ่นล่าสุดพร้อมสเปคใหม่ / MINI Hatch / MINI Convertible / MINI Clubmanและ MINI John Cooper Works รุ่นปรับโฉมใหม่ พร้อมด้วยกิจกรรมอีกมากมายที่คนรักมินิต้องไม่พลาด นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทย ยังเตรียมเปิด ‘MINI THE BLACK MARKET’ รวมพลเจ้าของรถยนต์ MINI จากทั่วประเทศไทย มาร่วมกันเปิดท้ายขายของ ในวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 นี้ เวลา 15.00-21.00 น. ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
MINI Expo 2018 ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างนวัตกรรมยานยนต์สำหรับผู้ที่รักในเสน่ห์เฉพาะตัวของ MINI ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิก เน้นขับขี่สนุก หรือผู้ที่ชอบความเร็วและสมรรถนะที่ร้อนแรงในสนามแข่ง เราเชื่อว่างานนี้จะตอบโจทย์คนรัก MINI ทุกเจเนอเรชั่นอย่างแน่นอน"
"MINI Cooper S Countryman’ ราคาจำหน่าย 2,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
ด้วยรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและทรวดทรงที่โฉบเฉี่ยวสะอาดตา MINI Cooper S Countryman ผสมผสานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับความคลาสสิกแบบมินิในทุกองค์ประกอบของตัวรถ อย่างเช่นไฟหน้าที่มาพร้อมกับ LED Daytime Driving Light ให้แสงสว่างที่นวลตาอย่างทั่วถึงทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน พร้อม LED Fog Light ตัดหมอกทั้งไฟหน้าและไฟหลัง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และระบบ Parking Assistant ที่ทำให้การจอดรถเป็นเรื่องง่ายดายและสะดวกสบายมากขึ้น
MINI Cooper S Countryman ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และการตอบสนองที่ดีขึ้น ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 15.9 กม./ลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 142 กรัม/กม. และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมพวงมาลัยหนังแท้แบบมัลติฟังก์ชั่นระบบ Servotronic ที่ตอบสนองทุกโจทย์การขับขี่ได้อย่างแม่นยำ ส่วนล้ออัลลอยเป็นดีไซน์ Pair Spoke สีเงินขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวาง MINI Cooper S Countryman ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว ส่วนเบาะที่นั่งหลังสามารถพับได้ โดยแบ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานต่างๆ การตกแต่งภายในห้องโดยสารเป็นสีดำในสไตล์ Piano Black พร้อมเบาะหนังแท้สีดำ Leather Cross Punch Carbon Black สไตล์สปอร์ต เพิ่มความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชัน Automatic Tailgate ให้สามารถควบคุมการเปิดปิดฝากระโปรงรถเพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น MINI Cooper S Countryman ยังมาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว บริเวณกลางแผงคอนโซล ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แผนที่นำทาง ข้อมูลของตัวรถ ความบันเทิง และ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ และข้อมูลต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เสริมความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง
ดูเพิ่มเติม
>> Isuzu ออกแคมเปญ แค่ทดลองขับก็มีสิทธิ์รับสิทธิ์ซื้อ MU-X ราคา 50%
>> 5 อันดับแบรนด์รถกระบะขายดีที่สุดในไทย
"MINI Cooper S Countryman Hightrim’ ราคาจำหน่าย 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
MINI Cooper S Countryman Hightrim ใหม่ ยังคงมีรูปลักษณ์ปราดเปรียวและคลาสสิกในสไตล์ Countryman ภายนอกและภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วย Chrome Line ตัดขอบด้วยเส้นสายโครเมียมสีเงิน เพิ่มความหรูหรา ภายในรถมาพร้อมกล้องมองหลังและระบบ Parking Assistant ช่วยให้จอดรถได้ง่ายดาย และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
MINI Cooper S Countryman Hightrim ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบ/นาที เช่นเดียวกับในรุ่น MINI Cooper S Countryman และทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddle Shift พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ MINI Yours แบบสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และล้ออัลลอยสีเงินลาย Edged Spoke ขนาด 19 นิ้ว ขับขี่ได้สนุกทันใจแบบมีสไตล์
ห้องโดยสารตกแต่งในสไตล์ MINI Yours Piano Black Illuminated สีดำมันวาว มาพร้อมไฟสีที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศยามค่ำคืน พร้อมด้วยเครื่องเสียงชั้นเลิศจาก Harman Kardon ที่พร้อมมอบความเพลิดเพลินให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อการเดินทางที่สุนทรีย์ยิ่งขึ้น ระบบแสดงผล MINI Head-Up Display ที่ได้รับแรงบรรดาลใจจากเทคโนโลยีในห้องโดยสารเครื่องบินเจ็ท ผู้ขับขี่ MINI Cooper S Countryman Hightrim จะสามารถมองเห็นข้อมูลการขับขี่ เช่น ความเร็วของรถยนต์ โดยที่ไม่ได้บดบังทัศนวิสัยบนท้องถนน ส่วนหน้าจอระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ขนาด 8.8 นิ้ว จะอยู่บริเวณกลางแผงคอนโซล พร้อมระบบ MINI Connected ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในยามเดินทาง แสดงพิกัดของรถ และข้อมูลต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
MINI John Cooper Works Convertible
"MINI John Cooper Works Convertible’ ใหม่ ราคาจำหน่าย 3,468,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)"
MINI John Cooper Works Convertible ใหม่ เสริมความแรงอย่างต่อเนื่อง โดยผสานเครื่องยนต์ทรงพลังและระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเทียบชั้นกับรถแข่ง เข้ากันอย่างลงตัวกับดีไซน์สปอร์ตและชุดแต่งที่โดดเด่นสะกดทุกสายตา สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์ด้วยสมรรถนะปราดเปรียวและรูปลักษณ์สุดคลาสสิกของ MINI
เครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดของ MINI อย่างเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ต ให้พละกำลังถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. เสริมสมรรถนะการขับเคลื่อนด้วยระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต ที่มอบพลังเสียงเร้าใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่แบบเปิดประทุน
อีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นของ MINI John Cooper Works Convertible ใหม่ คือ หลังคาผ้าแบบอัตโนมัติ ที่สามารถเปิด-ปิดได้อย่างไร้เสียงด้วยระบบไฟฟ้า และยังได้รับการปรับปรุงให้สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้มากขึ้นอีกด้วย โดยการเปิด-ปิดหลังคาสามารถทำงานด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว และใช้เวลาในการเปิด-ปิดเพียงแค่ 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงสุด 30 กม./ชม. ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับเลื่อนเปิดหลังคาเฉพาะส่วนหน้าได้มากสุดถึง 40 เซนติเมตร โดยไม่จำกัดความเร็วขณะขับขี่
MINI John Cooper Works Convertible ใหม่ ยังพกขีดสุดแห่งความคล่องตัวและความแม่นยำในการเข้าโค้ง ด้วยการติดตั้งระบบช่วงล่างที่สามารถปรับสภาพตามรูปแบบการขับขี่ (Adaptive Suspension) และชุดเบรกแบบสปอร์ตมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน รวมทั้งโครงสร้างตัวถังที่เสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับรุ่น Convertible พร้อมชุดแต่ง Aerodynamics จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เต็มรูปแบบ และล้ออัลลอยลาย John Cooper Works Cup Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ที่เสริมลุคสปอร์ตอันทรงพลังให้แก่ MINI John Cooper Works Convertible เจเนอเรชั่นใหม่นี้
MINI John Cooper Works Hatch 3 ประตู
"MINI John Cooper Works Hatch 3 ประตู' รุ่นปรับโฉมใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,418,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
สัมผัสสมรรถนะเร้าใจในสไตล์ ‘Go-Kart Feeling’ แบบฉบับของ MINI กับ MINI John Cooper Works Hatch 3 ที่สืบทอดประสิทธิภาพจากสนามแข่งของ John Cooper มาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โลดแล่นด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง ชุดแต่ง John Cooper Works
MINI John Cooper Works Hatch 3 ประตู ยังคงขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุด 231 แรงม้า จากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ต ส่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที
ความสปอร์ตของ MINI John Cooper Works Hatch 3 ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Cup Spoke Two-Tone ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับจานเบรกสีแดง เสริมลุคด้วยท่อไอเสีย John Cooper Works แบบคู่ที่อยู่กึ่งกลางของท้ายรถ พร้อมให้ความรู้สึกเร้าใจด้วยเบาะหนังหรือผ้า Dinamica สีดำตัดกับแดง มอบความรู้สึกทรงพลังด้วยความคลาสสิกสไตล์ MINI อย่างแท้จริง
MINI Cooper Hatch 3 ประตู
>>> ดูเพิ่มเติมราคา Mini Cooper มือสอง ที่มีขายในประเทศไทย
ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 2,180,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
"MINI Cooper S Hatch 5 ประตู ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 2,220,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
ด้วยคาแรคเตอร์ที่เด่นชัดและเสน่ห์ของรถยนต์สัญชาติอังกฤษ รถยนต์ MINI Cooper Hatch 3 ประตู และ MINI Cooper S Hatch 5 ประตู มาพร้อมโฉมใหม่รอบคัน เด่นสะดุดตาไปกับโคมไฟหน้าแบบฮาโลเจนในรุ่น Cooper และ Cooper D ที่เน้นรายละเอียดด้วยพาเนลสีดำด้านในโคมไฟ และการปรับโฉมไฟหน้าแบบวงแหวนเต็มวงในดีไซน์ใหม่ ในรุ่น Cooper S ที่ให้ความสว่างมากขึ้นทั้งในโหมดไฟต่ำและไฟสูงด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชันไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มขณะที่ทำการเปิดไฟเลี้ยว นอกจากนี้ ยังมีล้ออัลลอยทั้งหมด 3 แบบที่ต่างกันไปในแต่ละรุ่น คือ ลาย Victory Spoke Black ขนาด 16 นิ้ว ลาย Roulette Spoke 2-tone ขนาด 17 นิ้ว และลาย Rail Spoke 2-tone ขนาด 17 นิ้ว ไฟท้ายของรถใหม่ให้มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงและเส้นไฟ LED ลายธง ยูเนียน แจ็ค แห่งสหราชอาณาจักร ในรุ่น Cooper S และ John Cooper Works Hatch โดยไฟเบรกจะใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง และไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทะแยงเมื่อไฟหน้าเปิดอยู่ ทำให้ภาพรวมของท้ายรถรุ่นปรับโฉมใหม่นี้มีความสวยงาม โดดเด่นจากการผสมผสานเส้นไฟเข้ากับรายละเอียดของลายธง ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษ
MINI Hatch มาพร้อมกับขุมพลังเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo โดยมีให้เลือกสรรทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ในรุ่น Cooper และ Cooper D และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่วนระบบส่งกำลัง ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยคันเกียร์ใหม่ในระบบไฟฟ้า โดยในรุ่น Cooper และ Cooper S จะมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด คลัตช์คู่ (Dual-Clutch Transmission) ที่มอบจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและไหลลื่นยิ่งขึ้น เร่งความเร็วได้ทันใจ รวมถึงมีอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ขับขี่ได้คล่องตัวและพร้อมตอบสนองความท้าทายทุกโจทย์บนท้องถนน
MINI Cooper Hatch 3 ประตู ให้กำลังสูงสุดที่ 136 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.8 วินาที ส่วน MINI Cooper S Hatch 5 ประตู สามารถให้กำลังได้สูงสุด 192 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.7 วินาที MINI Cooper Hatch รุ่นปรับโฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัลพร้อมระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว หรือ 8.8 นิ้ว สำหรับ MINI Cooper S Hightrim ที่มีเทคโนโลยีไร้สายแบบ Bluetooth ติดตั้งในตัวเพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ รวมถึงเทคโนโลยี MINI Connected ที่จะเชื่อมต่อฟังก์ชั่นต่างๆ บนรถยนต์กับสมาร์ทโฟนได้
MINI Cooper S Convertible
"MINI Cooper S Convertible’ รุ่นปรับโฉมใหม่ ราคาจำหน่าย 3,030,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)"
เพื่อตอกย้ำความเป็นมินิในสไตล์อังกฤษ หลังคาของรถ MINI Cooper S Convertible รุ่นปรับโฉมใหม่ ประทับลายธงยูเนียนแจ็คในสไตล์ MINI Yours อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ขับขี่ มีการเพิ่มตัวเลือกของสีเบาะที่นั่งและห้องโดยสารทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Leather Chester / Leather Malt Brown / Leather Cross Punch Carbon Black และล่าสุดกับ Leather Lounge Satellite Grey ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความไม่เหมือนใคร และเติมความโดดเด่นบนท้องถนนให้กับ MINI Cooper S Convertible ขณะขับขี่แบบเปิดหลังคา
MINI Cooper S Convertible มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ และขุมพลังเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้าโดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7.1 วินาที มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด คลัตช์คู่ (Dual-Clutch Transmission) ที่มอบจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและไหลลื่นยิ่งขึ้น เร่งความเร็วได้ทันใจ ส่วนล้อเป็นลายพิเศษ MINI Yours Vanity Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ที่มากับฝาครอบล้อลาย MINI Yours
สำหรับพวงมาลัยในรถรุ่นปรับโฉมใหม่ทั้ง MINI Hatch 3 ประตู 5 ประตูและ MINI Cooper S Convertible จะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน โดยที่มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไปใน MINI แต่ละรุ่น ทางด้านซ้ายจะมีปุ่มควบคุม Speed Limit ที่กำหนดความเร็วสูงสุดของรถได้ ส่วนชุดควบคุมด้านขวาจะเกี่ยวข้องกับระบบความบันเทิงและเครื่องเสียง นอกจากนี้ MINI Cooper S Convertiblee ยังมาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัลพร้อมระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้วที่มีเทคโนโลยีไร้สายแบบ Bluetooth ติดตั้งในตัวเพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ รวมถึงเทคโนโลยี MINI Connected ที่จะเชื่อมต่อฟังก์ชั่นต่างๆ บนรถยนต์กับสมาร์ทโฟนได้
ข้อเสนอพิเศษในงาน MINI Expo 2018
สำหรับทุกการจองในงาน MINI Expo 2018 ระหว่างวันที่ 16-19 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ลูกค้ามินิจะได้รับหมอนลายกุญแจรถยนต์ MINI สุดเอ็กซ์คลูซีฟเป็นของขวัญ และสำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน จะรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561 จะได้รับสิทธิประโยชน์จากทาง MINI อีกมากมาย
ทั้งหมดนี้เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น สำหรับใครที่เป็นสาวก MINI ห้ามพลาดงาน MINI Expo 2018 โดยเด็ดขาด ทาง Chobrod จะเก็บเกี่ยวบรรยายกาศภายในงาน MINI Expo 2018 มาฝาก รอติดตามกันได้เลย
ดูเพิ่มเติม
>> ยักษ์ใหญ่มาไทยจริง! All-new Mitsubishi Xpander 2018 จ่อเปิดตัวสิงหาคมนี้ ที่แรกงาน Big Motor Sales 2018
>> เปลือยหมด-เห็นจะๆ ! ภายนอก/ภายใน/ขุมพลัง Mitsubishi Xpander ก่อนเปิดตัวในไทย สิงหาคมนี้
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่