ประเทศไทยเป็นประเทศที่สำคัญประเทศหนึ่งของ มาสด้า ทั่วโลก
ฮิโรชิ อิโนอุเอะ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า มาสด้าได้แบ่งประเภทของตลาดออกเป็น 4 กลุ่ม ตามรายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยดังนี้
1.กลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้น้อยกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี
2.กลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้ระหว่าง 3,000-6000 ดอลลาร์
3.กลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้ระหว่าง 6,000-1 หมื่นดอลลาร์ และ
4.กลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้ 1 หมื่นดอลลาร์ขึ้นไป
ยอดขายรถยนต์มาสด้าในอาเซียน
จากนั้น แสดงให้เห้นว่า ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่จับกลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้ระหว่าง 3,000-6,000 ดอลลาร์ เนื่องจากว่าตลาดดังกล่าวเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ โดยมุ่งเป้าการเปิดตัวรถยนต์ที่มีราคาถูก (โลว์คอสต์คาร์) เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อรถยนต์เป็นครั้งแรกในชีวิต
ขณะที่บริษัทโฟกัสธุรกิจไปจับกลุ่มประเทศที่ประชากรมีรายได้ระหว่าง 6,000-1 หมื่นดอลลาร์ เพราะบริษัทมองว่าในอดีตเคยเป็น ผู้บริโภคที่เคยครอบครองรถยนต์แล้ว ซึ่งมีโอกาสที่จะซื้อเพื่อทดแทนรถยนต์คันเดิม หรือมีโอกาสที่จะแนะนำการซื้อรถยนต์ต่อให้กับผู้อื่นได้ทั้งในครอบครัวหรือคนรอบข้าง และบริษัทมองว่าจะสามารถช่วยสร้างสังคมและการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ที่สำคัญ บริษัท มาสด้า ยังมีเป้าหมายในการที่จะขึ้นติดอันดับ 1 ใน 3 ของภูมิภาคอาเซียน ในด้านการให้บริการต่างๆ และความพึงพอใจของผู้บริโภครวมถึงการสร้างแบรนด์ โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริโภคถือเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
กลยุทธ์การขายทั่วไปในตลาดของบริษัทมีอยู่ 2 วิธี นั้นคือ
1.การมอบส่วนลดและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อจูงใจผู้บริโภค และ
2.การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ชูคุณค่าของรถยนต์ให้ผู้บริโภคเลือกด้วยความเข้าใจ
และมาตรฐานการผลิตจะเป็นหัวใจหลักที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจ โดยในภูมิภาคอาเซียน มีโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้าอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่ภาพลักษณ์ใหม่ในการให้บริการของศูนย์จำหน่ายและบริการทั่วภูมิภาคยังได้เริ่มต้นจากประเทศไทย และทยอยปรับภาพลักษณ์ใหม่ใน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์
อิโนอุเอะ ยังกล่าวเพิ่มว่า ปี 2564 บริษัทคาดว่าตัวเลขยอดขายในภูมิภาคอาเซียนของบริษัทจะอยู่ที่ 2 แสนคัน เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยผลดีทางด้านการโฟกัสผลิตภัณฑ์และการทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้น บริษัทจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน
สำหรับการเปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ ที่มีแผนจะเปิดตัวภายในปี 2562 ยังคงเป็น สิ่งที่น่าจับตามองว่าภูมิภาคใดจะเป็น ผู้ผลิตเครื่องยนต์ โดยประเทศไทยที่มีฐานการผลิตเครื่องยนต์และเกียร์ก็ เป็นหนึ่งในความสนใจเช่นเดียวกันนะครับ
อ่านเพิ่มเติม:
>>> Mazda โตไม่หยุด! หลังปิดไตรมาสที่ 3 เตรียมแผนกลยุทธ์การแข่งขันในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ทันที