ทางกรมควบคุมมลพิษเสนอการทำงานที่บ้านระยะยาว หลังพบว่าปัญหาค่าฝุ่นมลพิษ PM2.5 ลดลง จากการประกาศ พรก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวในสถานการณ์โควิด-19 ช่วงที่ผ่านมา
>> ขนส่งเลื่อน อบรมใบขับขี่เสาร์ อาทิตย์ จนกว่าจะยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน
>> ฝุ่นพิษ PM2.5 สัญญาณเตือนไทย เร่งหันไปใช้รถไฟฟ้า
ในช่วงต้นปี ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ต้องพบเจอกับปัญหาค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน จากฝุ่นพิษ PM2.5 และเหมือนจะเป็นปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขให้แล้วเสร็จเด็ดขาดได้เสียที จนช่วงเวลาถัดมาก็ต้องเผชิญกับสภาวะที่รุนแรงกว่า จากการเข้ามาของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งในอีกมุมหนึ่ง การมาของไวรหัส ก็พลิกน้ำหนักตาชั่งความอันตรายของฝุ่น PM2.5 ดังกล่าวให้ลดลงด้วยเช่นกัน
การเกิดฝุ่น PM2.5 นั้น ส่วนสำคัญมาจากสภาพแวดล้อมที่เกิดการแออัด โดยเฉพาะท้องถนนในกรุงเทพฯ ที่แน่นขนัดไปด้วยยานพาหนะอันก่อให้เกิดฝุ่นควันหลากหลายประเภท ซึ่งฝุ่นควันเหล่านี้ที่มีมากเกิดไปก่อให้เกิดเป็นมลพิษจนสร้างเป็นหาดังกล่าวให้เกิดขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพกฎระเบียบของคนบางกลุ่ม ที่ช่วยตอกย้ำ ซ้ำเติมและขยี้ให้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขให้แล้วเสร็จสักที เช่น การเผาควันไฟ เป็นต้น
วิกฤตฝุ่น PM2.5 เมื่อต้นปี
และเมื่อมีการเข้ามาของไวรัสโควิด-19 ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแผนพฤติกรรมเดิมอันส่งทางอ้อมต่อปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่เป็นผลดีทำให้ค่าฝุ่นนั้นลดลง เพราะอย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ไวรัสโควิดได้ทำให้เกิดการจำกัดพื้นที่ เกิดการสร้างระยะระหว่างบุคคล รวมไปถึงสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหวังลดการกระจายของเชื้ออันตราย และเมื่อเกิดผลกระทบที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องการมาตรการรับมือจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน ที่ต้องเปลี่ยนระบบการทำงาน จากเดิมที่ต้องทำงานในพื้นที่สำนักงาน เปลี่ยนมาเป็นทำงานที่บ้าน หรือที่เรียกว่า Work From Home (WFH)
การ Work From Home ลดการสัญจร
สถานการณ์โควิด-19 ได้เกิดมาตรการรับมือด้วยการสั่งปิดสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างบุคคล เช่น สถานศึกษา บริษัท สถานที่ทำงาน หรือร้านค้าชุมชน อีกทั้งตามด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ต่อด้วยการประกาศเคอร์ฟิวในวันที่ 3 เมษายนเวลาต่อมา ที่ยกระดับไปถึงขั้นปิดเมือง ทำให้ปัญหาด้านมลพิษจากฝุ่นลดฮวบลงอยากเห็นได้ชัดเจน เพราะการทำงานที่บ้าน การหยุดการสัญจร ทำให้เกิดการเดินทางลดลง การใช้เชื้อเพลิงก็ลดตาม และนั่นก็ส่งผลให้การเกิดฝุ่นลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจนนั่นเอง
นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้ออกมาแถลงว่า สถานการณ์ PM2.5 อาจจะรุนแรงขึ้นมากกว่านี้หากไม่มีการระบาดของโควิด-19 ที่นำไปสู่การปิดเมือง และปรับพฤติกรรมให้คนต้องกักตัวอยู่บ้านและลดการสัญจร โดยให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่มีการปิดสถานศึกษา สถานประกอบการ รวมไปถึงการ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ดัชนีคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ อยู่ในระดับดีมากเกือบทุกวัน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีฟ้าที่ค่ามลพิษต่ำที่สุด
ในช่วงที่ผู้คนกักตัว การสร้างปัญหามลพิษบนท้องถนนก็ลดลง
แต่ก็จะเรียกว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็คงไม่ได้ เพราะการเกิดโควิด-19 ถึงจะช่วยลดปัญหาเรื่องฝุ่น แต่สร้างผลกระทบด้านอื่นที่ร้ายแรง ทั้งการเจ็บป่วยล้มตาย การขาดรายได้ทางเศรษฐกิจ ที่ปัญหาเหล่านี้ถึงขั้นที่เรียกว่าอยู่ในระดับฉุกเฉินระดับโลก แต่ต้องยอมรับว่า มาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดนั้น ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในแทบทุกด้าน ทั้งน้ำ อากาศ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและปริมาณขยะ
ผลลัพธ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ได้มีการเก็บข้อมูลและเกิดข้อเสนอใหม่ เมื่อวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ออกมาแถลงว่าได้มีนโยบายที่กำลังยื่นเสนอต่อทางนายกรัฐมนตรี ถึงการให้พิจารณาการทำงานที่บ้าน เพื่อสร้างให้เป็น New Normal โดยให้เหตุผลว่า การทำงานที่บ้านเลี่ยงการสัญจร จะแก้ไขปัญหาฝุ่นได้อย่างยั่งยืนในที่สุด
การทำงานที่บ้านจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ระยะยาวได้
ซึ่งกำลังอยู่ในช่องเก็บรวบรวมข้อมูล หากประเมินแล้วว่าประสิทธิภาพในการทำงานในรูปแบบ Work From Home อยู่ในระดับที่เป็นมาตรฐาน ไม่ส่งผลด้านลบ ก็อาจจะเสนอให้ใช้นโยบายการทำงานที่บ้านต่อไป แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายไปแล้วก็ตาม
นี่ไม่ใช่การปรับสมดุลของธรรมชาติ กับการที่หลายคนเข้าใจว่าสิ่งเลวร้ายที่เข้ามา จะช่วยปรับหรือสร้างสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น สิ่งเรานี้มันคือผลที่เกิดขึ้นจากการรับมือที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิม ไปเริ่มสร้างเป็นแนวพฤติกรรมใหม่ ที่ต่อมาได้กลายเป็นการลดภาวะเดิมไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งในตอนนี้เองก็มีหลายบริษัทที่ปรับตัวและหันมาสร้าง New Normal ตามแบบฉบับใหม่บ้างแล้วกับการทำงานที่บ้าน เพราะนอกจากจะลดการเดินทางแล้วยังได้ลดค่าใช้จ่ายด้วย แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์กรที่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องนี้กันอีกครั้ง ด้วยตามลักษณะขององค์กรที่มีความแตกต่างกันในรูปแบบของงาน ดังนั้นเรื่องนี้ จึงยังต้องติดตามกันต่อไปว่านโยบายการทำงานที่บ้านจะมีการออกมาประกาศอะไรต่อหรือไม่ รวมไปถึงท่าทีของเหล่าประชาชนที่มีต่อเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่