จะซื้อดีใหม? ส่องข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจซื้อ Toyota C-HR 2018

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 17 ก.ค 2561
แชร์ 9

หลังจากเปิดตัวไปได้สักพัก และดูเหมือนว่า SUVs จาก Toyota อย่าง Toyota C-HR จะได้รับความสนใจจากแฟนๆ ชาวไทยไม่น้อย

ด้วยดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย ไฟหน้าและไฟท้ายที่ใช้หลอด LED สดใสสวยงาม รวมถึงล้อแม็กที่เสริมความเฟียตให้รถคันนี้ดีหล่อขึ้นเป็นกอง แต่ แต่ แต่ ก่อนที่จะวู่วามสั่งจอง มาส่องข้อดีข้อเสียของ Toyota C-HR กันก่อนดีกว่า

ด้านหลังยกสูง อาจอึดอัดนิดหน่อย

ด้านหลังยกสูง อาจอึดอัดนิดหน่อย

1. ภายนอกงาม ภายใน..อาจไม่สบาย

แม้ดูภายนอก รถคันนี้ดูแล้วน่าจะมีห้องโดยสารที่กว้างขวางสบายอย่างแน่ ซึ่งก็ถูกครึ่งเดียว เพราะการตกแต่งภายในของ Toyota C-HR 2018 นี้เข้าขั้นสวยท้าชน SUV ตัวท็อปได้สบายๆเลย  ทั้งเบาะหุ้มหนังอย่างดี เน้นเส้นด้ายเพิ่มความโฉบเฉี่ยวสวยงาม แต่ด้วยความที่ตัวรถมีการออกกแบบให้หลังคาลาดเทไปด้านหลัง บวกกับออกแบบให้พื้นที่ประตูเบียดหน้าต่างเพื่อใส่ที่เปืดประตู จนทำให้หน้าต่างด้านหลังมีขนาดเล็กมา ทำให้ห้องโดยสารที่กว้างขวาง กลับดูอึดอัดเนื่องจากความสูงที่น้อยลง เรียกได้ว่า กว้างด้านข้าง แคบด้านบน นั่นเอง ซึ่งใครมีเพื่อนตัวสูงๆ ก็บอกให้เขาทนหน่อยนะ อาจจะลำบากนิดนึง

ดูเพิ่มเติม
>> 
SUV หรือ Sedan เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเรา

>> พาไปดู Nissan Rogue (X-Trail) ครอสโอเวอร์ในเวอร์ชั่นแต่งสุดธีม Star Wars
 

ประหยัดเต็มที่ อัตราเร่งเลยไม่จี๊ด

ประหยัดเต็มที่ อัตราเร่งเลยไม่จี๊ด

2.ประหยัดมาก่อน ใครใจร้อนอาจไม่เหมาะ (รุ่นไฮบริด)

ด้วยความที่เป็นรถ SUVs ประหยัดน้ำมัน ทำให้จากการทดลองขับในรุ่น HV Hi (รุ่นไฮบริดตัวท็อป) พบว่า หากขับในความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง เจ้า Toyota C-HR 2018 นี้ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีบกพร่อง แต่ด้วยความที่เป็นรถที่เน้นความประหยัด ทำให้เมื่อพ้นช่วง 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงไป พบว่าอัตราเร่งเริ่มแผ่ว แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ได้คือความประหยัดพลังงานแบบเต็มสูบ เอาเป็นว่า เพียงพอสำหรับใครในตัวเมือง เช่นในกรุงเทพนี่เหมาะเลย

ช่วงล่างพัฒนาขึ้น

ช่วงล่างพัฒนาขึ้น

3. ช่วงล่างออกแบบมาดีขึ้น นุ่มขึ้น

สิ่งที่ต้องยอมรับอีกอย่างของ Toyota C-HR 2018 นี้ คือการออกแบบช่วงล่างที่ดูเหมือน Toyota  จะทำการบ้านมาดีขึ้น เพราะ Toyota C-HR 2018 มาพร้อมช่วงล่างแบบ Double Wishbone นี้มีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น เข้าโค้งได้เนียนขึ้นท้าชนรถเก๋งช่วงล่างเทพได้สบายๆ เลย โดยมีการทดสอบทั้งในสภาพถนนปกติทั้งในเมืองและนอกเมืองแล้ว เรียกได้ว่าเนียนจริง เชื่อสิ

รุ่นเริ่มต้นเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ไม่ได้นะ

รุ่นเริ่มต้นเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ไม่ได้นะ

4. สิ่งอำนวยความสะดวก..อาจไม่ครบ

ทั้งภายนอกและภายในของ Toyota C-HR 2018 นั้นยอมรับว่าออกแบบมาได้อย่างสวยงาม แต่ทว่า ในรุ่นเริ่มต้น ของ Toyota C-HR 2018  นั้นไม่มีระบบเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟน ทั้งๆ ที่รถรุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกันมี ซึ่งนี้ก็เป็นข้อด้อยที่ไม่อาจมองข้ามไปของ Toyota C-HR 2018  และด้วยราคาที่เปิดมาค่อนข้างสูง ทำให้หลายๆ คนอาจะเบนเข็มไปเลือก Honda HR-V ที่มีราคาใกล้เคียกัน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายในมีครบกว่าก็ได้

ดูเพิ่มเติม
>> 
ราคา Toyota C-HR 2020 เดือนกรกฎาคม 2563

>> Toyota C-HR กับ Mazda CX-3 คันไหนดีกว่ากัน

Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่