ข่าวห้ามนั่งท้ายกระบะล่าสุด ปีใหม่นี้ตำรวจผ่อนผัน กระบะหลังนั่งได้

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 28 ธ.ค 2560
แชร์ 6

กระแสข่าวล่าสุดในเรื่องการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2561 เน้นคุมเข้มกฎหมายเมาไม่ขับ เพิ่มด่านตรวจเพื่อลดอุบัติเหตุ ผ่อนผันให้นั่งที่กระบะท้ายได้ แต่ห้ามนั่งบนขอบกระบะ หรือมีการดื่มสุราจนมึนเมา

 

โดยในการประชุม ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร., พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ รองผบช.ก., พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร ตัวแทนจากกองบังคับการตำรวจทางหลวง, กรมการขนส่งทางบก, กรมทางหลวง, กรมทางหลวงชนบท, บริษัท ขนส่ง จำกัด ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อสรุปเนื้อหาความเข้มข้นในข้อกฎหมายจราจร พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่าจะให้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นในการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับเป็นสำคัญ ด้วยการตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆ มากขึ้น และผ่อนผันให้นั่งกระบะท้ายได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำคัญที่อาจส่อให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายได้ง่าย เช่น การนั่งที่ขอบกระบะ และการดื่มสุราของมึนเมา จะไม่ให้การผ่อนผันอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเมาแล้วขับ ทางตำรวจจะร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงเพื่อตั้งจุดสกัดรถยนตร์และจักรยานยนต์ทำการยึดรถทันที จะปล่อยคืนก็ต่อเมื่อหลังจากเจ้าของนำเอกสารมาขอรับคืนภายหลัง
 

ส่วนในเรื่องนำร่องสวมหมวกนิรภัย 100% ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า นอกจากการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถรับทราบข้อมูล จากนั้นจะมีการบังคับข้อกฎหมายอย่างเข้มงวดในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 และถ้าหากเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อคจะทำการตักเตือน และไม่ให้ขับขี่ไปต่อ จนกว่าผู้ขับขี่จะหาหมวกกันน็อคมาใส่ถึงจะปล่อยให้ไปได้ ทั้งนี้ตำรวจไม่มีอำนาจยึดรถผู้กระทำผิดที่ไม่สวมหมวกกันน็อค ยกเว้นในกรณีที่ผู้ขับขี่อาจส่อพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายใดๆ ตำรวจสามารถใช้ดุลยพินิจในการตรวจยึด เพือทำการตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียด อีกทั่งยังยืนยันว่ามาตราการนี้ ไม่ได้ตั้งไว้เพื่อเป็นช่องโหว่ ให้ข้าราชการตำรวจเรียกรับผลปรโยชน์ใดๆ  

 

ไม่สวมหมวกกันน็อค จะโดนห้ามขี่จนกว่าผู้ขับขี่จะหาหมวกมาใส่ได้

ไม่สวมหมวกกันน็อค จะโดนห้ามขี่จนกว่าผู้ขับขี่จะหาหมวกมาใส่ได้
 

รอดูกันต่อไปกับคำว่า “ดุลยพินิจ” ของตำรวจ จะมีมาตรฐานมากน้อยแค่ไหน ภายใต้ช่วงที่กฎหมายเข้มงวดกับการใช้รถใช้ถนน ผู้คนมากมายมุ่งหน้าสู่การเดินทางเป็นสำคัญ เพื่อหาความสุขในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่นี้ ตัวเลขอุบัติเหตุคือเครื่องชี้วัดบอกได้ชัดเจนที่สุด ความสำเร็จหรือล้มเหลวของมาตรการต่างๆ นี้ แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญนอกจากข้อกฎหมายคือวินัยของผู้ขับขี่ที่ต้องทำตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน ผ่านการร่วมมือของผู้ใช้รถเท่านั้นจึงจะให้นโยบายประชารัฐอันเข้มงวดในช่วงเทศกาลนี้ บรรลุเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ใช้รถได้สมบูรณ์มากที่สุด

 

>> รัฐบาลยอมถอย! กลับสงกรานต์ นั่งท้ายกระบะ-แคปได้