การขายเทคโนโลยีที่แตกต่างของ Toyota และ Nissan
ตลาดรถยนต์ในประเทศ |
2 ส.ค 2560
Toyota ค่ายผู้ผลิตรถอันดับต้นๆ ของโลกมั่นใจในเส้นทางของตัวเอง เรื่องของการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งผู้ใช้คงยังไม่มีทางที่จะได้ใช้รถประเภทนี้จาก Toyota ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน จะมีก็เพียงแต่รถรูปแบบ hybrid และ plug-in hybrid เท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า Toyota ไม่ได้ตื่นเต้นในการเร่งปล่อยรถที่เป็นแบบ EV (Electronic Vehicle) สักเท่าไรเช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ที่แตกต่างกับค่ายคู่แข่งสำคัญอย่าง Nissan ที่ก็มีเส้นทางที่ชัดเจนในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยตนเอง ( Self-Driving ) ที่เริ่มใช้ระบบ ProPilot ซึ่งเป็นระบบกึ่งขับเคลื่อนเองอัตโนมัติไปแล้วในรถบางรุ่น แต่ Toyota ก็ใช่ว่าจะน้อยหน้าในเรื่องนี้ซะที่ไหน ก็ได้บรรจุเทคโนโนโลยีนี้เข้าไปใน Lexus LS 2018 ที่จะคล้ายกับระบบ ProPilot ของ Nissan สามารถควบคุมรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
จุดสังเกตได้ง่ายๆ ของความแตกต่างใยค่ายใหญ่ทั้งสองของญี่ปุ่นคือ ระบบ ProPilot จะมีอยู่ในรถ Minivan อย่าง Nissan Serena และ X-Trail crossover แต่ของ Toyota กลับอยู่ในรถหรูซีดานอย่าง Lexus แต่ทั้งสองค่ายใช้แผนการตลาดที่ต่างกัน Nissan มั่นใจที่จะใช้คำว่า “Self-Driving” หรือ “รถขับเคลื่อนด้วยตนเอง” เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ แต่ผู้บริหารของ Toyota กลับมองว่า การใช้คำพูดแบบนั้นจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้รถมากเกินไปจนส่งผลให้เกิดความประมาทในการขับขี่ แต่ Toyota จะใช้คำพูดประมาณว่า “เทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบาย”, “เทคโนโลยีความปลอดภัย” ซะมากกว่า นาย เคนโคอิจิ ประธานบริหารของ Toyota กล่าว
Nissan กำลังเล่นกับตลาดในวงกว้างเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายกว่า และก็อาจจะทำให้เห็นจุดบกพร่องของระบบได้จากผู้ใช้งานได้ด้วย แต่ Toyota กำลังค่อยๆ หย่อนลองเชิงกับเทคโนโลยีนี้กับประเภทรถหรูไปก่อน ถ้าใครต้องการใช้ก็ต้องจ่ายเพิ่มและถ้าเทคโนโลยีนี้ไม่เจอปัญหาและได้รับความนิยม Toyota คงใส่เกียร์เดินหน้าลุยเต็มสูบกับรถหลายๆ รุ่นในค่าย
>> [Video] ชัดๆ ในทุกมุม กับ “Mitsubishi Eclips Cross” ทุกมุมมองพร้อมเขย่าตลาด SUV ทั่วโลก
ก็ต้องมารอดูกันว่าวิธีของค่ายไหน จะได้ผลมากกว่าลุยเต็มที่ขายความใหม่ให้คนอยากลองแบบ Nissan หรือจะเป็นแบบ รุ่นใหญ่ใจนิ่ง ค่อยๆ ไม่รีบแบบ Toyota ไม่กลัวอยู่แล้วเพราะตัวเองเป็นเจ้าตลาดแต่ถ้าช้าไปก็ระวังจะตามคนอื่นเขาไม่ทัน
ที่มา :: www.ctvnews.ca
>> ดูเพิ่มเติม:
- มาชม Toyota Innova รุ่นแรกที่ผ่านการคัสตอมมาแบบเรียบๆ แต่ดุดัน
- บอสกล่าว !!! Renault-Nissan สามารถแซงยอดขาย VW, Toyota
- ครั้งแรกในโลก!! Nissan เผยโฉม JukeCam กล้อง 360 องศา สุดล้ำ
Toyota LS 2018
จุดสังเกตได้ง่ายๆ ของความแตกต่างใยค่ายใหญ่ทั้งสองของญี่ปุ่นคือ ระบบ ProPilot จะมีอยู่ในรถ Minivan อย่าง Nissan Serena และ X-Trail crossover แต่ของ Toyota กลับอยู่ในรถหรูซีดานอย่าง Lexus แต่ทั้งสองค่ายใช้แผนการตลาดที่ต่างกัน Nissan มั่นใจที่จะใช้คำว่า “Self-Driving” หรือ “รถขับเคลื่อนด้วยตนเอง” เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ แต่ผู้บริหารของ Toyota กลับมองว่า การใช้คำพูดแบบนั้นจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้รถมากเกินไปจนส่งผลให้เกิดความประมาทในการขับขี่ แต่ Toyota จะใช้คำพูดประมาณว่า “เทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบาย”, “เทคโนโลยีความปลอดภัย” ซะมากกว่า นาย เคนโคอิจิ ประธานบริหารของ Toyota กล่าว
Nissan Serena
Nissan กำลังเล่นกับตลาดในวงกว้างเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายกว่า และก็อาจจะทำให้เห็นจุดบกพร่องของระบบได้จากผู้ใช้งานได้ด้วย แต่ Toyota กำลังค่อยๆ หย่อนลองเชิงกับเทคโนโลยีนี้กับประเภทรถหรูไปก่อน ถ้าใครต้องการใช้ก็ต้องจ่ายเพิ่มและถ้าเทคโนโลยีนี้ไม่เจอปัญหาและได้รับความนิยม Toyota คงใส่เกียร์เดินหน้าลุยเต็มสูบกับรถหลายๆ รุ่นในค่าย
>> [Video] ชัดๆ ในทุกมุม กับ “Mitsubishi Eclips Cross” ทุกมุมมองพร้อมเขย่าตลาด SUV ทั่วโลก
ก็ต้องมารอดูกันว่าวิธีของค่ายไหน จะได้ผลมากกว่าลุยเต็มที่ขายความใหม่ให้คนอยากลองแบบ Nissan หรือจะเป็นแบบ รุ่นใหญ่ใจนิ่ง ค่อยๆ ไม่รีบแบบ Toyota ไม่กลัวอยู่แล้วเพราะตัวเองเป็นเจ้าตลาดแต่ถ้าช้าไปก็ระวังจะตามคนอื่นเขาไม่ทัน
ที่มา :: www.ctvnews.ca
>> ดูเพิ่มเติม:
- มาชม Toyota Innova รุ่นแรกที่ผ่านการคัสตอมมาแบบเรียบๆ แต่ดุดัน
- บอสกล่าว !!! Renault-Nissan สามารถแซงยอดขาย VW, Toyota
- ครั้งแรกในโลก!! Nissan เผยโฉม JukeCam กล้อง 360 องศา สุดล้ำ
