สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดกฎจราจรด้วยการตัดแต้มคะแนน หากคะแนนหมดมีสิทธิถูกเพิกถอนใบขับขี่ ส่วนใบสั่งรุ่นใหม่ปฏิเสธแล้วต่อสู้คดีได้ แต่ถ้าได้รับแล้วไม่ชำระ ถูกปรับเป็นสองเท่า
กฏหมายใหม่เตรียมลงโทษผู้ที่ทำผิดกฏจราจร
กฏหมายใหม่เตรียมลงโทษผู้ที่ทำผิดกฏจราจร หากถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 12 คะแนน จะถูกสั่งตัดสิทธิขับรถบนถนนและอาจนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตในอนาคต
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ว่าได้เสนอให้มีมาตรการป้องกันผู้กระทำความผิดจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการแก้กฏหมายและเพิ่มโทษด้วยวิธีการตัดแต้ม ซึ่งหลักเกณฑ์ได้วางไว้แล้วร้อยละ 80 คือ ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่จะมีคะแนนทั้งหมด 12 คะแนน ซึ่งการตัดคะแนนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
หากถูกตัดคะแนนความประพฤติเกิน 12 คะแนน จะถูกสั่งตัดสิทธิขับรถบนถนน
1.กระทำผิดต่อตนเอง แต่ไม่กระทบสาธารณะ จะถูกตัดครั้งละ 1 คะแนน เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกกันน็อค ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
2.ความผิดปานกลางที่ทำให้สาธารณะได้รับผลกระทบ จะถูกตัดครั้งละ 2 คะแนน เช่น ฝ่าไฟแดง ขับรถย้อนศร
3.ความผิดรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อสังคม จะถูกตัดคะแนนเพิ่มขึ้น เช่น เมาแล้วขับ เสพยาเสพติดแล้วขับรถ ชนแล้วหนี
ดูเพิ่มเติม
ทั้งนี้โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถสาธารณะ เช่น แท็กซี่, รถตู้ จะถูกตัดคะแนนเพิ่มขึ้นกว่าปกติ หากกระทำผิดจนคะแนนความประพฤติหมดจะถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ 12 เดือน แต่หากกระทำผิดซ้ำอีกอาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ส่วนใบสั่งรุ่นใหม่ผู้ที่ได้รับใบสั่งสามารถปฏิเสธใบสั่งแล้วต่อสู้คดีได้ แต่ถ้าได้รับใบสั่งแล้วไม่ชำระค่าบริการจะถูกปรับเป็น 2 เท่า ซึ่งกฏหมายใหม่จะไม่มีการยึดใบอนุญาตขับขี่ความผิดจะถูกบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์แทน
ใบสั่งรุ่นใหม่ผู้ที่ได้รับใบสั่งสามารถปฏิเสธใบสั่งแล้วต่อสู้คดีได้
นอกจากนั้น พล.ต.ต.เอกรักษ์ ยังเสนอแนวทางสำหรับผู้ต้องการขอรับใบขับขี่ จะต้องทดสอบว่ามีความสามารถในการขับขี่บนทางสาธารณะได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ เมื่อได้รับมาตรฐานแล้วจึงจะได้รับสิทธิขับรถบนถนนร่วมกันผู้อื่นได้
ดูเพิ่มเติม