มือใหม่-มือเก๋า ก็ต้องอ่าน “ประกันภัยรถ” แบบไหนดีได้ประโยชน์สูงสุด

ประสบการณ์ใช้รถ | 24 ม.ค 2562
แชร์ 1

เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะเจ้าของรถยนต์คันต่างๆ ที่เมื่อถึงครบรอบกำหนดเวลาให้ต้องซื้อ "ประกันภัยรถยนต์" ก็ถึงคราที่จะต้อง "เลือก" ทั้งความคุ้มค่า ราคา และผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้กับตัวเอง

เพราะแน่นนอนว่า ทุกคนจะต้องเลือกเอาประกันภัยที่่มีประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด หนำซ้ำแต่และค่ายแต่ละบริษัทที่รับประกันภัยรถยนต์ต่างก็อัดแคมเปญรวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงลูกค้าเจ้าของรถยนต์ให้มาเลือกใช้บริการ ขณะที่ฐานลูกค้าเก่าก็ต้องรักษา และยังต้องพยายามแย่งชิงลูกค้าใหม่ให้มาซื้อประกันภัยกับบริษัทของตัวเอง

แต่สำหรับมือเก๋าๆ ที่ขับรถมานาน การเลือกประกันภัยรถยนต์ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่แน่ล่ะสำหรับมือใหม่ เรื่องนี้ค่อนข้างหน้าปวดหัวพอสมควรทีเดียว วันนี้ Chobrod ขอพาไปทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์กันสักหน่อย และจะหาเคล็ดลับเล็กน้อยมาสู่ผู้อ่าน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากถึงเวลาที่ต้องเลือกหาประกันภัยให้กับรถยนต์คู่ใจของตัวเอง

ประกันภัยรถยนต์ เรื่องสำคัญที่ต้องรู้

ประกันภัยรถยนต์ เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ 

ทำไมต้องรู้จัก “ประกันภัยรถยนต์”

ข้อนี้สำคัญทีเดียว เพราะเป็นเรื่องที่เจ้าของรถยนต์จะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ เนื่องจากคำว่า “อุบัติเหตุ” มันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะประมาทหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ประกันภัยนี่แหล่ะที่จะเข่ามาช่วยคลายปัญหาให้กับเจ้าของรถยนต์ แต่มันก็สำคัญเช่นกันที่เจ้าของรถยนต์จะต้องเลือกเอาประกันภัยที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เพราะจะได้รับการดูแลที่ดีทั้งในเรื่องการบริการ เช่น เคลมเร็วจบง่าย ไม่เสียเวลา เจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุได้เร็ว ช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ และได้รับการคุมครองตามสิทธิ์ที่ได้ตกลงกันไว้ รวมถึงเสียเวลาซ่อมรถไม่นาน องค์ประกอบเหล่านี้จึงจำเป็นที่เจ้าของรถยนต์จะต้องเลือก “สิ่งที่ดีที่สุด” สำหรับประกันภัยรถยนต์

ดูเพิ่มเติม
>> 
7 เทคนิค การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์
>> คปภ. เพิ่มความคุ้มครองสั่งจ่ายเพิ่มประกันรถยนต์

เลือกแบบไหน ประกันภัยรถยนต์ถึงดีที่สุด

ข้อนี้อาจตอบให้ได้ลำบาก เพราะมันขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของเจ้าของรถยนต์แต่ละคันนั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนจะจ่ายทำประกันภัยรถยนต์ คือเรื่องของ “ทุนประภันภัย” เพราะแต่ละบริษัทประกันภัย ธนาคารต่างๆ ที่ทำประกันภัยรถยนต์เช่นกัน ราคาค่า “เบี้ยประกัน” ที่เจ้าของรถยนต์ต้องจ่าย ก็จะมีความแตกต่างกัน บางที่ถูก บางที่แพงกว่า แต่มันก็มาพร้อมกับคำว่า หากรถยนต์เสียหายแล้ว จะได้รับทุนประกันภัยเท่าไหร่ ซึ่งทุนประกันนี้เอง คือ วงเงินสินไหมที่บริษัทประกันจะจ่ายให้กับคู่กรณีเพื่อรับผิดชอบแทนผู้ใช้รถยนต์เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งหากว่า “เบี้ยสูง” แล้วล่ะก็ “ทุนประกัน” ก็จะสูงตาม

เจ้าของรถยนต์จะต้องเลือก

เจ้าของรถยนต์จะต้องเลือก "ประกันภัย"ที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์

“ค่าเสียหายส่วนแรก” หลายคนเข้าใจผิด

เมื่อเจ้าของรถยนต์ซื้อประกันภัยแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุก็ใช่ว่า บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้นั่นๆ จะ “เคลม” ให้คุณได้เลยทันที หรือคิดว่าไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายอะไรแล้ว เพราะเดี๋ยวประกันภัยก็จ่ายให้ เรื่องนี้ก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะก่อนจะซื้อประกันภัย ท่านเจ้าของรถยนต์จะต้อง “อ่าน” อย่างละเอียดในเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยเฉพาะค่าเสียหายส่วนแรก บางเจ้าอาจจะให้ “ลูกค้าจ่ายก่อน” แล้วมาเบิกทีหลัง หรือ จ่ายส่วนแรกไปก่อน แล้วที่เหลือบริษัทประกันจะจ่ายให้ เป็นต้น หรือแม้แต่บางบริษัทหากอุบัติเหตุเกิดขึ้นเช่น “ชนกัน” แต่คู่กรณีหนีหายเข้ากลีบเมฆ บริษัทประกันก็อาจระบุในเงื่อนไขว่าจะไม่ออกค่าเสียหายให้ เพราะไม่มีคู่กรณีได้เหมือนกัน ทริคง่ายๆ ข้อนี้ คือต้อง “เช็ค” ให้ละเอียดก่อนจะจ่ายเงินค่าประกันภัย หากสงสัยข้อไหนต้องถามบริษัทรับประกันภัยทันที เพราะบางที่เจ้าของรถยนต์อ่านไม่เคลียร์ ก็ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกสูงถึง 5,000 บาทก็มี

มาเร็ว เคลมเร็ว ไม่เสียเวลานาน น่าจะตอบโจทย์ประกันภัยที่ลูกค้าต้องการ

มาเร็ว เคลมเร็ว ไม่เสียเวลานาน น่าจะตอบโจทย์ประกันภัยที่ลูกค้าต้องการ

3 เทคนิคลดเบี้ยประกันภัย ที่บริษัทประกันอุบเงียบไม่บอกคุณ

1.สร้างเงื่อนไขค่าเสียหายส่วนแรก – ข้อนี้เจ้าของรถยนต์ต้องมั่นใจว่าการขับขี่ตลอดทั้งปีและระยะเวลาของวงเงินประกันภัยนั้น จะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลย ซึ่งอาจจะสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัย เช่น หากเกิดอุบัติเหตุจะยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกไม่เกิน 2,000 บาท มันก็จะทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถูกลงไปมากทีเดียว

2.พยายามรักษาสถานะ “ลูกค้าชั้นดี” – หากท่านจ้าของรถยนต์ไม่เคลมประกันเป็นเวลานานๆ บริษัทประกันภัยที่เราทำประกันเอาไว้ ก็อาจจะใจดีลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ให้ในปีถัดไป ดังนั้น ก็ต้องรักษาสถิติการขับรถที่ปลอดภัยเอาไว้ จะได้เก็บประวัติเป็นส่วนลด แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าต้อง “ถาม” ให้ชัดเจน เพราะว่าเงื่อนไขนี้บางบริษัทอาจะมีสัญญาผูกมัดเอาไว้ได้ หากจะเปลี่ยนเป็นประกันภัยเจ้าอื่นอาจจะทำได้ยาก

3.ส่วนลด ขอไปเถอะ – เมื่อบริษัทประกันภัยมายื่นข้อเสนอ เจ้าของรถยนต์ก็มีสิทธิ์จะขอ “ส่วนลด” ค่าเบี้ยประกันได้ แม้บางเจ้าจะบอกว่าลดไม่ได้อีกแล้ว หรือบอกราคาลดมาแล้วก็ตาม จริงๆ แล้วยังมีเปอร์เซ็นต์ส่วนลดอยู่บ้างเล็กน้อย หรือหากไม่ได้จริงๆ ก็แกล้งขู่เล่นๆ ได้ว่า “คงไปเจ้าอื่นแทน” เพียงเท่านี้ก็อาจจะได้ส่วนลดมาประกอบการตัดสินใจได้ด้วย แต่บางท่านอาจมีหลักความเชื่อว่า ของแบบนี้ การซื้อประกันภัยต่างๆ ก็ไม่ควรขอส่วนลด เพราะมันจะเป็นลางที่ไม่ดีเอาได้

ยังมีอีกหลายอย่างที่บริษัทประกันภัยไม่ได้บอกคุณ

ยังมีอีกหลายอย่างที่บริษัทประกันภัยไม่ได้บอกคุณ 

ท้ายสุด Chobrod หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะมือใหม่หรือมือเก่าก็ตาม ที่เพิ่งได้ครอบครองรถยนต์มาแล้วต้องถึงเวลาจะซื้อประกันภัย นั่นก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าของรถยนต์ทุกท่านนั่นเอง

ดูเพิ่มเติม
>> 
TQM ได้ทำการประเมินประกันภัยรถยนต์ปี 2562 ว่า..สดใสขึ้นกว่าเดิมหลังจากยอดขายพุ่ง!
>> 5 เรื่องที่มือใหม่ต้องรู้เมื่อคุณจะ “ซื้อรถคันแรก”

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้