AWD กับ 4WD ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี??

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ส.ค 2560
แชร์ 2

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เรื่องระบบขับเคลื่อนผู้ซื้อรถคงจะสนใจแค่เพียงเครื่องยนต์ขับหน้า หรือขับหลัง เรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อยังห่างไกลกับผู้ใช้รถ เพราะมีอยู่แค่ในพวกรถกระบะออฟโรดเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ระบบขับเคลื่อนได้ก้าวเข้ามาอยู่ในประเภทรถ SUV หรือ Crossover SUV ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากผู้ใช้งาน ซึ่งรถเหล่านี้มีระบบขับเคลื่อน ทั้ง 4WD หรือ AWD ซึ่งทั้ง 2 แบบแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลย

รถใหม่ ที่มีจำหน่ายกันตอนนี้ ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ 4WD และระบบขับเคลื่อน 4 แบบใน AWD (All Wheels Drive) เข้ามามีบทบาทมากกับรถยนต์ที่มีจำหน่ายอยู่หลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Subaru XV, Honda CR-V,  Mazda CX-5 รถรุ่นเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นรถที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้น ไม่จำกัดว่าจะต้องอยู่แต่ในเฉพาะรถกระบะ 4x4 เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว

Crossover
Crossover ยอดนิยมต่างนำระบบขับเคลื่อน AWD, 4WD เข้ามาเป็นตัวเลือกแก่ลูกค้า

ระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD อีกชื่อคือ Part Time Four Wheel Drive เราอาจจะเคยเห็นระบบขับเคลื่อนนี้กันมานานแล้ว ชาวกระบะเรียกว่าระบบขับว่าเป็นรถขับสี่ ซึ่งการใช้งานรถปกติจะเป็นแบบขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้นแต่เมื่อรถเจออุปสรรคในตอนที่ขับฝ่าหลุม บ่อโคลน จนเกิดอาการล้อฟรี!! ก็สามารถปรับระบบเกียร์ให้สองล้อที่เหลือสามารถทำงานกลายเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อ

ส่วนอีกระบบหนึ่งคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา AWD หรือ All Wheel Drive ที่ถูกพัฒนามาจาก Full Time Four Wheel Drive แบบ Fortuner ซึ่งล้อทั้งสี่จะทำงานขับเคลื่อนอยู่ตลอด ไม่สามารถปรับมาเป็นสองล้อได้เลย ส่งกำลังเท่ากันหมดทั้งสี่ล้อ ล้อละ 25% จากกำลังเครื่องยนต์ทั้งหมดที่ส่งมา

Part Time Four Wheel Drive ที่คุ้นเคย
Part Time Four Wheel Drive ที่คุ้นเคย สังเกตได้ง่ายๆ คือเกียร์ที่ปรับอัตราทดได้เมื่อขับสี่

ระบบ All Wheel Drive จะขับเคลื่อนสี่ล้อเมื่อรถต้องเจอสถานการณ์ลื่นไถล เสียการทรงตัวจะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือไฮดรอลิค เข้ามาควบคุมสั่งการทำงานเป็นขับสี่ ในบางเวลา บางจังหวะเท่านั้นอย่างรุ่น Honda CR-V ที่เป็นแบบไฮดรอริคเพื่อระบบปรับเป็นขับ 4 ซึ่งเรื่องรายละเอียดของการทำงานจริงๆ ในระบบนี้แทบจะต้องแบ่งออกเป็นตามค่าย ตามยี่ห้อเลยด้วยซ้ำ บางค่ายอาจจะเรียกชื่อคล้ายๆ กันเพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า แต่อาจมีสอดแทรกเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเพื่อให้การขับขี่ทำได้ดีขึ้น ขับขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย

ถ้าจะพูดถึงแล้วถ้าขับใช้งานในเมืองในทางเลียบ ระบบขับเคลื่อนแบบ Full Time Four Wheel Drive การขับขี่จะดีกว่าแต่เรื่องเชื้อเพลิงก็มากกว่าเช่นกัน แต่ถ้าต้องลุยป่าฝ่าดงกับถนนทุรกันดารต้องเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ Part Time Four Wheel Drive ที่จะสามารถปรับเกียร์ Low เพื่อช่วยในเรื่องของอัตราทดได้ ส่วน All Wheel Drive การขับเคลื่อนส่วนใหญ่จะเป็นแบบสองล้อแต่จะมีปรับเป็นสี่ล้อชั่วคราวแบบ Real-Time ตามจังหวะการขับขี่ที่ต้องการความปลอดภัย

ถ้าเน้นลุยจริงๆ เลือก Part Time Four Wheel Drive
ถ้าเน้นลุยจริงๆ เลือก Part Time Four Wheel Drive

เอาเป็นว่า ถ้าคุณเห็นสเปครถใหม่ที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อ หาข้อมูลเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของค่ายนั้นๆ โดยละเอียด อย่ามองแต่เพียที่เขียนว่า “4WD”, “AWD” ที่ติดอยู่ท้ายรถ ต้องดูการทำงานจริงๆ ของรุ่นนั้นๆ โดยละเอียดเพื่อที่การตัดสินใจซื้อรถของคุณจะตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งานได้จริงตามที่หวัง

>> ข้อมูลคร่าวๆ All-New Mazda CX-5 เวอร์ชั่นมาเลเซีย คาดว่าจะมีการเปิดตัวในเร็วๆนี้

>> “Honda HR-V” Crossover SUV ที่น่าใช้ที่สุด กับช่วงเวลาที่กอบโกยขึ้นเป็นเจ้าตลาดและความท้าทายจากคู่ปรับที่กำลังเข้ามา!!