5 จุดสังเกต ความเสียหายในเครื่องยนต์ที่กำลังจะมา

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ส.ค 2560
แชร์ 0

ผู้ใช้รถทุกคนต่างรู้ดีถึงความสำคัญของการดูแลเครื่องยนต์ หัวใจหลักในการทำงานของรถยนต์ทุกคัน แต่ก็มีหลายคนที่มองข้าม ขับอย่างเดียว ใช้อย่างเดียว จนกระทั่งความเสียหายจากเล็กๆ ขยายวงกว้างจนเครื่องยนต์อาการหนัก ยิ่งถ้าผู้ใช้รถไม่สนใจ ฝืนใช้ไปจนเสียหายหนักลุกลาม ต้องซ่อมหนัก ซ่อมแพง ทั้งที่จริงๆ แล้วมีวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของรถคุณ ถ้ารีบแก้ไขก็สามารถช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมมากเกินไปโดยใช่เหตุ

ถ้าเกิดว่าคุณเจออาการหรือสัญญาณเหล่านี้ แนะนำให้คุณรีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมที่ไว้ใจได้ทันที ก่อนรถสุดที่รักของคุณจะเกิดความเสียหายมากขึ้น มากกว่าที่ควรจะเป็น

สังเกตอาการจาก “เสียง”

ทุกๆ วันที่คุณใช้รถ จะเกิดความคุ้นเคยกับการขับขี่ เสียงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับสามารถสังเกตได้ง่าย ถ้าเกิดมีเสียงรบกวนผิดปกติในขณะใช้งานขับขี่อยู่ และเสียงแบบไหนที่เจ้าของรถต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

ความผิดปกติของเสียงการทำงานของเครื่องยนต์
ความผิดปกติของเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นสัญญาณเตือนหนึ่งว่ารถควรได้รับการดูแล

  • เสียงดัง “ก๊อกๆ”

ในห้องโดยสารเงียบๆ ถ้ามีเสียงเหมือนอะไรกระทบดัง ก๊อกๆ เล็ดรอดจากห้องเครื่องให้คุณได้ยิน เมื่อเปิดฝากระโปรงขึ้นมา ดูแล้วว่าการทำงานภายนอกไม่มีอะไรผิดปกติแต่เมื่อเข้าไปฟังชัดๆ ที่บริเวณเครื่องยนต์ยิ่งได้ยินชัดขึ้น สาเหตุน่าจะมาจากอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเผาไหม้เกิดความเสียหาย แตก หักหรือร้าว ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่ปกติ ควรหยุดขับรถทันที เรียกรถลากมาลากเข้าอู่ อย่าฝืนขับต่อเพราะถ้าฝืนขับไปอาจพาให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหายไปด้วย

  • เสียงหอน แหลมๆ

ถ้าเกิดมีเสียงหอน แหลมๆ ตอนที่เพิ่งสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ เครื่องยังไม่ร้อน อาการแบบนี้มาจากสายพานตามจุดต่างๆ ของเครื่องยนต์ ซึ่งสาเหตุมาจากสายพานหย่อนหรือสึกหรอหมดอายุการใช้งานแล้ว ควรจะต้องเปลี่ยนใหม่ วิธีแก้ไขเบื้องต้นเพื่อระหว่างรอเปลี่ยน คุณก็อาจจะหาจารบีหรือพวกสเปรย์ฉีดอเนกประสงค์ ฉีดแก้เบื้องต้นเสียงเหล่านั้นก็จะหายไป และรีบนำรถเข้าอู่เพื่อแก้ไข ปรับสายพานให้ตึงหรือเปลี่ยนสายพานเส้นใหม่ในกรณีที่สายพานเก่ามากเกินไปแล้ว

>> วิธีแก้ไขเบื้องต้น เมื่อสายพานเสียงดัง

  • เสียงดังเหมือนเหล็ก เสียดสี

เสียงดังที่มาจากบริเวณล้อทั้งสี่ เป็นอาการของผ้าเบรกหมด หมดจนกระทั้งเหลือเพียงแผ่นเหล็กสำหรับรองผ้าเบรก เหล็กสัมผัสกับจากเบรกเป็นเสียงของการเสียดสีระหว่างเหล็กกับเหล็ก ซึ่งหมายความว่าถึงเวลาแล้วคุณจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรก ถ้าปล่อยไว้จะยิ่งอันตรายเมื่อใช้รถ แล้วเบรกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

สังเกตอาการจาก “ควัน”

ควันเพียงเล็กน้อยจากท่อไอเสียอาจไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ แต่สิ่งที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้คือลักษณะควันที่ออกมาจากจุดที่ไม่ควระออกเนี่ยสิ อาจเป็นสัญญาณที่รถต้องการจะบอกกับคุณว่าถึงเวลาที่จะพาไปพบแพทย์ (เข้าอู่) ได้แล้ว

อาการควันขาว
อาการควันขาว มาจากการเผาไหม้ที่ไม่หมดจดของเครื่องยนต์

  • ควันดำ

ที่เกิดมาจากการสึกหรอของเครื่องยนต์ ปั้มฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ทำงานไม่ปกติ กรองอากาศอุดตัน น้ำมันเครื่องเก่าเกินไปหมดอายุ อาการของเครื่องยนต์ถูกแสดงออกมาผ่านควันลักษณะสีดำ ตอนที่เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทหรือจังหวะเหยียบคันเร่งควรรีบนำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างตรวจสอบตามจุดต่างๆ

  • ควันขาว

เกิดจากการเผาไหม้ไม่หมดของน้ำมันเครื่องที่หลุดรอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ ด้วยสาเหตุการสึกหรอของส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ การปล่อยให้เครื่องยนต์ร้อนมากๆ จนกระทั่งเสื้อสูบ ฝาสูบโก่ง น้ำมันเครื่องก็เล็ดรอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ หรือจะมาจากระบบวาวล์ เช่น พวกฝาครอบวาวล์ ตัววาวล์มีปัญหาทำให้น้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ได้เช่นกัน อาการเหล่านี้ล้วนจะต้องผ่านมือช่างผู้ชำนาญในการแก้ไข ให้รถกลับมาสู่สภาพปกติ

รถที่ต้องใช้งานอยู่ทุกวัน และถ้าไม่อยากให้รถคู่ใจของคุณต้องเกิดปัญหาขณะใช้งาน ไปตายกลางถนนหรือเสียค่าซ่อมที่แพงเกินไป การตรวจสอบอาการความผิดปกติของรถเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่าละเลย ไม่ใส่ใจ จนกระทั่งตัวรถที่คุณรักมีปัญหาต้องจากคุณไป จะทำให้กลับมาเหมือนเดิม ใช้ได้ปกติก็ต้อง “จ่ายแพง” กว่า

>> เครื่องยนต์สะดุด เกิดจากอะไร ?

>> รถสตาร์ทไม่ติด วิเคราะห์เบื่องต้นได้ด้วยตัวเอง