อุบัติเหตุการชน 4แบบนี้รู้ไว้!! ได้ประโยชน์

ประสบการณ์ใช้รถ | 1 พ.ย 2561
แชร์ 0

การชนบนท้องถนนมีมากมายหลายรูปแบบ แต่มีการรวบรวมสถิติที่เกิดอุบัติเหตุมากๆมาประมวลดูว่า การชนแบบไหนที่เป็นการชนหลักๆที่เกิดขึ้น เมื่อรู้ว่าเป็นแบบใดแล้วหากเราพุ่งเป้าไปที่การป้องกันการชนนั้นๆเป็นหลักก็จะทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงไปได้อย่างมีนัยสำคัญ


ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ฝ่าไฟแดงแล้วเกิดการชนที่ทางแยก

สำหรับผู้ขับรถยนต์ที่ขับรถมานานในระดับหนึ่ง การเฉี่ยวชนมักเป็นเหตุการณ์ที่แทบจะเลี่ยงไม่ได้ รถยนต์บนท้องถนนมีเป็นหมื่นๆคันที่ผ่านรอบรถเราไปในแต่ละปี การจะไม่ให้มากระทบกันเลยเป็นเรื่องที่ยากมาก แม้กระทั่งบริษัทประกันภัยรถยนต์เองก็มีงานเคลมให้ทำทุกวัน ถึงแม้การชนจะเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากแต่เราก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ดีที่สุดโดยการเคารพกฎหมายจราจรเป็นหลัก

หากมองเรื่องความปลอดภัยต่างๆบนท้องถนน ถนนในประเทศไทยก็นับได้ว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่อันตราย ชนิดที่ว่าคนเดินถนนจำเป็นต้องระวังรถยนต์มากกว่าคนขับรถยนต์ระวังคนเดินถนนด้วยซ้ำในบางกรณี เหตุสำคัญที่เกิดขึ้นและทำให้เกิดอันตรายบนท้องถนนก็คงหนีไม่พ้นการชนกันระหว่างรถยนต์กับคู่กรณีต่างๆ วันนี้เราจะมาดูกันว่าการชนกันบนท้องถนนมีหลักๆแบบใดกันบ้างเพื่อที่เราจะสามารถได้เรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยหรือให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด

การชนกัน คือเหตุการที่ไม่มีใครอยากให้เกิดบนท้องถนน

การชนกัน คือเหตุการที่ไม่มีใครอยากให้เกิดบนท้องถนน

การชนกันบนท้องถนนของรถยนต์มีมากมายหลายรูปแบบในระดับสากลมีการจำแนกออกเป็นหมวดหมู่หลักๆที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆได้เป็น 4ประเภทดังนี้

  1. การชนจากด้านหน้าของรถยนต์

การชนจากด้านหน้าแบบนี้เป็นการชนที่เกิดผลเสียต่อผู้ขับรถยนต์มากที่สุด ทั้งๆที่คนขับมองไปข้างหน้าขณะขับขี่แต่การชนจากด้านหน้าก็ยังเกิดเป็นอุบัติเหตุได้อยู่ดี เพราะว่าความแรงที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องของความเร็วรถยนต์โดยเฉพาะยิ่งวิ่งมาเร็วมาก เมื่อเกิดการชนก็ยิ่งเสียหายมาก สาเหตุของการชนแบบนี้มักจะเกิดจากทิศทางของรถยนต์เปลี่ยนไปสู่ทางที่มีรถยนต์อีกคันวิ่งสวนมา ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือการไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยได้

ความเสี่ยงของการชนจากด้านหน้ารถยนต์

ส่วนใหญ่ความเสี่ยงจากการชนแบบนี้เกิดจากสภาพถนนที่มีเลนที่แคบ หรือมีช่วงโค้งที่อับสายตา ไม่มีการแบ่งเลนด้วยเครื่องกีดขวางระหว่างทิศทางของรถยนต์ที่วิ่งสวนกันอย่างชัดเจน ทำให้การชนแบบนี้สร้างความเสียหายได้มากที่สุด โดยการเสียหายของรถยนต์จะแปรผันตรงกับความเร็วของรถยนต์ที่วิ่งในขณะนั้น ถนนที่มีลักษณะทำให้เกิดการชนแบบนี้คือถนนแบบวิ่งสวนกันโดยใช้เส้นบนถนนเป็นตัวแบ่ง ไม่ว่าจะเป็น 1, 2 หรือ 3 เลนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เป็นชานเมืองหรือชนบท โอกาสในการชนก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีก เพราะรถยนต์ก็ใช้ความเร็วสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากมอเตอร์เวย์ ที่รถทำความเร็วได้สูง แต่กลับมีอุบัติเหตุน้อยกว่ามากจากการชนแบบนี้ เพราะว่ามีการแบ่งการสวนกันของรถยนต์เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคลองที่กั้นระหว่างเลนสวน หรือกำแพงรั้วคอนกรีต, เหล็ก ดังนั้นถ้าคุณขับรถบนถนนที่เป็นเลนสวนแต่ไม่มีอะไรกั้นระหว่างเลน นั่นคือสภาพที่เสี่ยงที่สุดของการชนแบบนี้

ถนนที่เป็นเลนสวนกันและไม่มีเกาะกลางถนนแบ่งเป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายที่สุด

ถนนที่เป็นเลนสวนกันและไม่มีเกาะกลางถนนแบ่งเป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายที่สุด

การป้องกันการชนจากด้านหน้า

การลดการเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ได้ดีที่สุดคือการสร้างตัวแบ่งระหว่างเลนสวนให้ชัดเจน เพราะจากสถิติ การมีตัวแบ่งกั้นเลนสวนอย่างชัดเจนทำให้อุบัติเหตุการชนกันจากด้านหน้าลดลงถึง 70% ตัวกั้นระหว่างเลนสวนกันมี 3ประเภทหลักๆคือ แบบแข็ง แบบยืดหยุ่น และแบบกึ่งแข็ง ในหลายๆประเทศรัฐบาลก็ลดจำนวนถนนที่ไม่มีตัวกั้นระหว่างเลนสวนลง เพื่อเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุแต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือมูลค่าในการลงทุนสร้างตัวกั้นระหว่างเลนสวนนี่เองเช่นพวกเกาะกลางถนน

รถยนต์จะแข็งแค่ไหนชนด้านหน้าเต็มๆเข้าไปก็เละเหมือนกัน

รถยนต์จะแข็งแค่ไหนชนด้านหน้าเต็มๆเข้าไปก็เละเหมือนกัน

2. การชนที่เกี่ยวข้องกับคนเดินถนน

ถ้าเทียบในทวีปของประเทศที่เจริญแล้วและเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกอย่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา อุบัติเหตุจากการชนคนเดินถนนยังมีมากกว่า 200,000 รายต่อปี โดยเฉพาะในยุโรปมีมากกว่าในสหรัฐอเมริกา และส่วนใหญ่ที่รุนแรงถึงระดับเสียชีวิตก็มาจากการชนจากด้านหน้าของรถยนต์เข้ากับคนเดินถนน ที่ส่วนใหญ่จะโดนชนที่ส่วนล่างของร่างกายและกระเด็นมาโดยกระจกหน้ารถก่อนจะร่วงลงสู่พื้นถนน

สภาพการชนของรถยนต์กับคนเดินถนน

สภาพการชนของรถยนต์กับคนเดินถนน

เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าการชนระหว่างคนกับรถนั้นโอกาสที่จะทำให้คนเดินถนนเสียชีวิตนั้นมีมาก เพราะรถมีมวลมากแม้ใช้ความเร็วต่ำก็ทำให้เกิดแรงส่งที่มากอยู่ดี มีการคำนวณโอกาสความเป็นไปได้ของอัตราการเสียชีวิตเมื่อรถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วและชนเข้ากับคนเดินถนน ยิ่งความเร็วมากโอกาสก็เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ จากสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกาถ้าวิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า48กิโลเมตรต่อชั่วโมงและชนเข้ากับคนเดินถนนโอกาสการเสียชิวิตของคนเดินถนนนั้นจะประมาณ2% แต่ถ้าความเร็วมากกว่า78กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มมาเหมือนจะไม่เยอะเพียง30กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นแต่อัตราการเสียชิวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 32% นั่นตีความได้ว่ายิ่งรถวิ่งเร็วโอกาสการเสียหายก็ยิ่งมาก

การป้องกัน

สาเหตุหลักก็คงมาจากการมองไม่เห็นคนเดินถนนและต่อให้เห็นก็คือเบรกไม่ทัน ในเขตที่มีคนเดินถนนมาก ผู้ขับรถยนต์ควรใช้ความเร็วต่ำจะลดโอกาสการชนและเสียชีวิตได้ คนเดินถนนเองเมื่อเดินในที่ที่มีรถยนต์พลุกพล่านก็จำเป็นจะต้องอยู่ในเขตทางเท้าเอาไว้ก่อนเพื่อลดโอกาสในการชนจากรถยนต์ ถ้าเป็นเวลากลางคืนการเดินในที่ที่มีแสงสว่างหรือใส่เสื้อผ้าสีสว่างก็จะยิ่งทำให้คนขับรถยนต์มองเห็นเราได้ง่ายขึ้นด้วย โดยพื้นฐานแล้วถ้าคนขับมองเห็นเขาก็ไม่อยากชนคนแน่ๆ ดังนั้นหน้าที่ของคนเดินถนนที่ทำได้คือทำอย่างไรก็ได้ให้คนขับรถยนต์มองเห็นก็จะลดความเสี่ยงจากการชนลงได้

ดูเพิ่มเติม
>> 
“ประเทศกูมี...” สาวสุดงง ! รถเสียขึ้นสไลด์ฯ ไหงใบสั่งมาถึงบ้าน ?
>> จะกล้าลองไหมคะ กับ "แท็กซี่นินจา" และ "แท็กซี่บอดี้การ์ด" บริการแท็กซี่รูปเเบบใหม่ที่ญี่ปุ่น

3. การชนโดยลำพัง

การชนแบบนี้เป็นการชนที่เกิดขึ้นเองของรถยนต์กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่คนและไม่ใช่รถยนต์ด้วยกัน การชนแบบนี้สาเหตุหลักมาจาก2สิ่ง สิ่งแรกคือตัวรถยนต์ที่อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน อย่างที่2คือความผิดพลาดของผู้ขับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมาสุรา หรือขับเร็วจนไม่อาจควบคุมรถยนต์ได้ ประกอบกับสภาพแวดล้อมเช่นถนนและอากาศที่จำเป็นต้องขับช้าๆจึงจะปลอดภัย ทำให้สุดท้ายไม่สามารถควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในเลนตัวเองได้

ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่การชนของรถยนต์เข้าไปที่ร้านค้าก็ยังมีให้เห็น

ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่การชนของรถยนต์เข้าไปที่ร้านค้าก็ยังมีให้เห็น

การป้องกัน

เนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบคือคนขับล้วนๆ การป้องกันจึงต้องเริ่มจากตัวผู้ขับเองที่ต้องมีสมาธิและสติในเวลาที่ขับขี่รวมถึงต้องตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีตลอดเวลา เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่ารถยนต์จะสามารถทนกับสภาพการขับได้ถึงเมื่อไร การยอมบำรุงรักษาแม้สภาพชิ้นส่วนรถยนต์จะยังไม่ชำรุดจนใช้การไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้ขับควรคำนึงถึงและเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ทันท่วงทีก่อนที่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้น และพื้นฐานอีกเรื่องหนึ่งก็คือ “เมาไม่ขับ” นั่นเอง

4. การชนบริเวณทางร่วมทางแยก

การชนบริเวณทางร่วมทางแยกเป็นการชนจากด้านหน้าและด้านข้างรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ โดยอัตราการชนที่ทางร่วมทางแยกในเขตเมืองโดยเฉลี่ยมีประมาณ50% ส่วนในชานเมืองหรือนอกเมืองจะมีอัตรการชนประมาณ30% ด้วยเหตุที่ว่าในเมืองมีจำนวนแยกมากกว่าทำให้โอกาสการชนมีมากขึ้น แต่สำหรับความรุนแรงบริเวณชานเมืองเมื่อมีการชนเกิดขึ้นความรุนแรงมักจะมากกว่าเนื่องจากความเร็วรถที่สูงขึ้น

ที่ทางร่วมทางแยกก็มีการชนกันแทบจะสม่ำเสมอจากการฝ่าฝืนกฎจราจร

ที่ทางร่วมทางแยกก็มีการชนกันแทบจะสม่ำเสมอจากการฝ่าฝืนกฎจราจร

การป้องกัน

สำหรับการป้องกันในมุมมองของรัฐบาลคือการสร้างวงเวียน การสร้างวงเวียนบริเวณทางแยกช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุจากการชนได้อย่างมีนัยสำคัญแต่ก็แลกมากกับเงินลงทุนที่สูงขึ้น ถ้าจะป้องกันด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่านี้คือการสร้างทัศนียภาพบริเวณแยกให้มีความชัดเจน สว่างเพียงพอ และมีป้ายหรือสัญญาณจราจรที่ชัดเจนด้วย ในส่วนผู้ขับขี่ก็จำเป็นต้องเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและถึงแม้ว่าจะเป็นสัญญาณไฟเขียวก็ต้องระวังด้วยตัวเองด้วยว่ามีรถวิ่งเข้ามาหรือฝ่าไฟแดงมาจากทางอื่นหรือไม่

การสร้างวงเวียนช่วยลดอุบัติเหตุที่ทางแยกได้

การสร้างวงเวียนช่วยลดอุบัติเหตุที่ทางแยกได้

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้มากมายหลายรูปแบบ แต่ที่รวบรวมไว้ข้างต้นนี้คือการชนที่ในระดับสากลได้ลงความเห็นเอาไว้ว่าเป็นต้นเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุจากการชนที่เกิดขึ้นบ่อย เมื่อเรารู้ถึงรูปแบบหลักๆของการชนแบบนี้ได้แล้วก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้สถานการณ์อันตรายแบบนี้เกิดขึ้นได้ ทั้งจากถนนเลนสวน ถนนที่มีคนเดิน สภาพรถยนต์และสภาพร่างกายของผู้ขับ ตบท้ายด้วยการระวังรถยนต์จากทางอื่นในบริเวณทางร่วมทางแยก ถ้าเราป้องกันสภานการณ์ข้างต้นได้ อย่างน้อยอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดก็จะลดได้อย่างน้อย50%เลยทีเดียว

ดูเพิ่มเติม
>> 
“พระคุ้มครอง” ก็จริง แต่ตั้งพระในรถดีจริงหรือ?
​>> สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ล้มง่าย-พลิกคว่ำ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่