รวม 5 เรื่องผิดกฎหมาย ที่มักจะเกิดจากการกระทำที่เข้าใจผิด!

ประสบการณ์ใช้รถ | 4 มี.ค 2562
แชร์ 0

ถนนที่เราใช้เดินทางสัญจรไปยังเป้าหมายปลายทางในแต่ละวัน มีผู้คนมากมายต้องใช้ถนนร่วมกันบนเส้นทาง การมีกฎหมายออกมานอกจากจะช่วยในการจัดเรื่องระเบียบแล้วนั้น ยังช่วยในการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกกลุ่มคนประเภทหนึ่งที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกฎหมายอยู่ ซึ่งการกระทำของพวกเขามักจะเกิดจากความเข้าใจผิด เรามาดูกันดีกว่าว่า สิ่งเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอะไรกันบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

การแต่งรถให้ปล่อยควันดำเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และไม่ช่วยให้เครื่องยนต์แรงขึ้น
 

  • เข้าใจผิดว่า “ยิ่งทำให้รถยนต์ควันดำ ยิ่งทำให้รถแรงขึ้น”

การที่ทำให้รถยนต์ปล่อยควันดำนอกจากจะเป็นมลพิษทางอากาศซึ่งมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของเมืองไทยด้วยนะคะ โดยเราพบว่าหลายท่านที่ทำให้เครื่องยนต์ปล่อยควันดำนั้น เกิดจากความเข้าใจผิดในเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซล โดยเชื่อว่าการทำให้เกิดควันดำมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ความเร็วรถเร็วขึ้นกว่าเดิม การนำรถไปเข้าอู่เพื่ออุด EGR และการจูนน้ำมัน เพื่อให้ฉีดเข้าไปในห้องเผาไหม้ให้มากขึ้นจนเครื่องยนต์ไม่สามารถเผาไหม้ได้หมด เหลือออกมาเป็นควันสีดำ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง มีแต่ผลเสียกลับมา ซึ่งการจุดระเบิดนั้นก็ไม่ได้ทำให้ได้ค่าของพลังงานเพิ่มขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นของเสียทิ้งไปในอากาศ สิ้นเปลืองพลังงาน ผลร้ายทำให้อายุของเครื่องยนต์ลดลง หากใครรู้แบบนี้แล้ว รีบเปลี่ยนให้เครื่องยนต์กลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยด่วนเลยนะคะ เพราะไม่งั้นอาจโดนจับ และอาจโดนสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว จนกว่าจะนำรถไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีควันดำเป็นไปตามมาตรฐาน ภายในกำหนด 30 วัน ได้ หรือถ้าเป็นกรณีที่เจอหนักหน่อยก็อาจจะโดนห้ามใช้รถเด็ดขาด ตามกฎหมายได้นะคะ

เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้น หากจอดทิ้งไว้นาน จนขวางทางการจราจรถือว่าผิดกฎหมาย
 

  • เข้าใจผิดว่า “เวลาอุบัติเหตุเกิดขึ้น ห้ามขยับรถไปที่อื่นเด็ดขาด ให้จอดอยู่กับที่”

ในสมัยก่อนเวลาเกิดอุบัติเหตุกับรถของเรา หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วนั้น ให้จอดรถอยู่กับที่เท่านั้นห้ามขยับไปที่อื่น เนื่องจากรถยนต์ทุกคนที่ได้ทำประกันไว้ ทางประกันบางคันก็ได้สั่งว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วนั้น ห้ามเคลื่อนย้ายรถโดยเด็ดขาด เพื่อรอให้ประเมินก่อนว่าใครเป็นฝ่ายผิด และใครเป็นฝ่ายถูกในที่เกิดเหตุ ถ้าตามกฎหมายแล้วการที่รถจอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน จนเป็นเหตุให้การจราจรไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ถือว่าผิดกฎหมายนะคะ เพราะกีดขวางทางจราจร และขับรถยนต์โดยประมาท ทางที่ดีตอนนี้เทคโนโลยีในปัจจุบันเราสามารถเก็บภาพในที่เกิดเหตุได้ เราควรถ่ายรูปที่เกิดเหตุให้ครบทุกมุม และควรถ่ายรอบรถยนต์ให้มากที่สุด จากนั้นให้ขับรถยนต์หลบข้างทางเพื่อให้รถยนต์คันอื่นเดินทางไปได้ เมื่อประกันมาถึงแล้วจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง และมอบหลักฐานให้กับทางประกันในการส่งเคลมให้กับบริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการได้ใบสั่งที่เกิดจากผิดกฎจราจร และช่วยทำให้ผู้ใช้ถนนท่านอื่นสะดวกในการเดินทางด้วยนั่นเองค่ะ

ดูเพิ่มเติม
>> ยอดขาย “บีเอ็มดับเบิลยู” เติบโตเกินคาด 20% เผยยอดขายในปี 2561
>> ย้อนกลับมาดูงานยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดประจำภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา

การขับรถยนต์บนทางด่วนเร็วกว่ากฎหมายกำหนด มีความเสี่ยงโดนค่าปรับตามกฎจราจรได้
 

  • เข้าใจผิดว่า “ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางด่วน”

ขึ้นชื่อว่าทางด่วน หลายคนเลือกที่จะใช้เส้นทางนี้ที่ต้องจ่ายค่าผ่านทางพิเศษเพื่อจะได้ไปยังจุดมุ่งหมายให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถขับเร็วกว่าตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ได้ โดยตามกฎหมายที่ถูกต้องได้ระบุไว้ว่า ห้ามขับเร็วกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังมีหลายคนที่เข้าใจผิด เข้าใจเป็นว่าบนถนนบนทางด่วน เราสามารถกดคันเร่งให้ไปอยู่ที่ระดับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ เพราะเป็นเส้นทางพิเศษที่เราได้เสียเงินขึ้นมา จนเป็นเหตุให้มีใบสั่งส่งไปถึงบ้านเพราะผิดกฎจราจร จนต้องเสียค่าปรับกับทางตำรวจในที่สุด

สำหรับเส้นทางในประเทศที่ได้อนุญาตให้ผู้ขับสามารถขับได้ในระดับความเร็ว 120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ทางกฎหมายได้อนุญาตเพียงแค่ 2 เส้นทางเท่านั้น คือ

  1. เส้นทางหลวงหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี
  2. เส้นทางหลวงหมายเลข 9 ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก

ใบขับขี่รถยนต์แต่ละประเภทตามกฎหมายจะไม่สามารถใช้แทนกันได้
 

  • เข้าใจผิดว่า “เวลาไม่ได้นำใบขับขี่รถยนต์มา สามารถใช้ใบขับขี่จักรยานยนต์แทนได้”

เวลาที่เราตัดสินใจทำใบขับขี่สักคัน เราต้องดูให้ดีด้วยนะคะว่า เราจะทำประเภทไหน เพราะเมื่อเราออกมาขับรถยนต์จริงบนท้องถนน เหตุการณ์บางครั้งทำให้เราต้องเจอตำรวจที่จะขอตรวจใบขับขี่ได้ ซึ่งมีหลายท่านเหมือนกัน ที่เมื่อเจอตำรวจ กลับยื่นใบขับขี่ผิดประเภทให้ เนื่องจากความเข้าใจผิดคิดว่าสามารถใช้เหมือนกันได้ เพราะมีขั้นตอนในการขอใบอนุญาตที่เหมือนกัน ทางที่ดีเราควรพกใบขับขี่ทุกประเภทไว้กับตัวเองทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาไม่มีใบขับขี่เวลาขับรถออกบนถนนจะดีที่สุดค่ะ

ไฟฉุกเฉินไม่ควรเปิดเวลาเจอเส้นทางมีหมอกลงจัด และมีฝนตกหนัก
 

  • เข้าใจผิดว่า “เวลาเจอหมอกหนา ฝนตกแรง ให้เกิดไฟฉุกเฉินทุกครั้ง”

สำหรับข้อสุดท้ายนี้ มีหลายท่านเข้าใจผิดมากพอสมควรเลยค่ะ โดยเข้าใจผิดว่า ช่วงเวลาที่เราขับรถยนต์ในสภาพที่มีหมอกลงจัด หรือท่ามกลางฝนที่กำลังตกลงมาอย่างหนัง จะต้องเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ตลอดเพื่อที่จะมองเห็นรถยนต์ตัวเองง่ายขึ้น จนความเข้าใจผิดนี้เกิดผลเสียต่อผู้ที่ใช้ถนนท่านอื่น เข้าใจผิดว่ารถยนต์ของเรานั้นต้องการจะเปลี่ยนเลนส์ หรือว่าต้องการเลี้ยวกันแน่ จนบางทีก่อให้เกิดรถชนกันในที่สุด ทางที่ดี สิ่งที่ถูกต้องเวลาเราขับรถยนต์แล้วเจอสภาพอากาศเช่นนั้น เราไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉินนะคะ ควรปิดไฟฉุกเฉินไว้ แล้วเปิดแค่ไฟหน้า และไฟตัดหมอกในกรณีที่หมอกลงจัดเท่านั้น เพื่อความสะดวกให้กับเพื่อนๆ ผู้ใช้ถนนร่วมกับเรานั่นเองค่ะ

การขับรถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎจราจร ช่วยทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนนทุกท่าน

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ กับ 5 เรื่องผิดกฎหมายที่มักเกิดจากการกระทำที่เข้าใจผิด กฎจราจรน่ารู้ที่นำมาฝากกันในวันนี้ ถ้าข้อไหนมีข้อที่เพื่อนๆ ยังทำผิดอยู่ อยากให้ลองปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องดูนะคะ หรือถ้าหากเจอเพื่อนคนไหนที่ยังคงมีเข้าใจในบางเรื่องที่ผิดๆ อยู่ละอยากให้ช่วยกันเตือนดูนะคะ เพราะว่าเมื่อเราอยู่บนท้องถนนไม่ใช่มีแค่เพียงรถยนต์ของเราเท่านั้น ยังมีรถยนต์ของเพื่อนๆ อีกหลายคนเขาใช้ถนนร่วมกันด้วย และเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ยิ่งถ้าเราทำถูกต้องตามกฎจราจรมากเท่าไหร่ความปลอดภัย และความเสี่ยงต่อการโดนจับข้อหาทำผิดกฎหมายยิ่งน้อยลงเท่านั้นค่ะ

ดูเพิ่มเติม
>> กระบะแต่งซิ่ง เล่นรุ่นไหนดี? ควรทำอะไรบ้าง ?
>> 5 เรื่องน่ารู้ของ Ford Ranger Raptor!!!

คราวหน้าทาง Chobrod.com ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาให้ติดตามกันต่อ ฝากติดตามด้วยนะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี