ปิดเลข "ทะเบียนรถ" หวังเสริมดวง แต่อาจติดคุก

ประสบการณ์ใช้รถ | 5 มิ.ย 2562
แชร์ 1

จากปมร้อนที่เกิดเหตุวิวาทกันบนท้องถนนระหว่างทหารและหญิงสาวรายหนึ่ง ปมที่รถยนต์ของหญิงสาวติดสติกเกอร์อำพรางเลขทะเบียนรถโดยอ้างว่าเสริมดวง แต่จริงๆ มันผิดกฎหมายเต็มๆ และเผลอๆ อาจติดคุกเข้าให้ด้วย

จากเหตุการณ์ที่นายทหารชั้นสัญญาบัตรของกองทัพเรือนายหนึ่ง ร่วมกับหญิงสาวก่อเหตุทะเลาะวิวาทด้วยการบีบแตรไล่ถีบไล่เตะไล่ทุบรถกัน โดยหนุ่มทหารเรือผู้ขับรถเป็นภาพไล่บีบแตรและลงจากรถมาไล่ถีบรถยนต์ฮอนด้า แจ๊สของสาวรายนี้ แต่เมื่อเรื่องราวถึงโรงพักก็ทำให้สังคมทราบเหตุผลว่าสาเหตุที่นายทหารหนุ่มต้องเดือด เพราะนอกจากอารมณ์ร้อนระหว่างกันบนท้องถนนแล้ว มันยังเป็นเพราะรถยนต์คู่กรณีของหญิงสาวมีการดัดแปลงหรือจงใจบดบังเลขทะเบียนรถส่วนใดส่วนหนึ่งจนกลายเป็นประเด็นของเหตุทะเลาะวิวาท

จึงเป็นอีกประเด็นที่เกิดข้อสงสัยและข้อถกเถียงว่า เหตุใดหญิงสาวคนดังกล่าวจึงติดสติกเกอร์ส่วนหนึ่งเพื่อ "อำพราง" หมายเลขทะเบียน และแน่นอนว่ามันเป็นความผิดทีเดียวตามกฎหมายของเมืองไทย

ปิดป้ายทะเบียนเพราะเสริมดวง

เหตุผลที่หญิงสาวคนดังกล่าวหยิบยกมาชี้แจง เพราะการปิดบังเลขทะเบียนรถยนต์บางส่วนเป็นเพราะตัวเลขของป้ายทะเบียนไม่ถูกชะตากับเจ้าของรถยนต์อย่างเธอ การปิดตัวเลขบางส่วนไว้จึงกระทำไปเพื่อความสบายใจ แต่อีกด้านหนึ่ง ชาวเน็ตได้ไปขุดคุ้ยและพบว่า เจ้าของรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สคันนี้ เคยถูกตามล่าจากสื่อสังคมเพราะเรื่องจงใจบดบังเลขทะเบียนเองโดยที่ไม่ทราบสาเหตุมาแล้วก่อนหน้านี้อีกด้วย

นอกจากเหตุการณ์ร้อนๆ ที่ทะเลาะกันบนถนน ก็ยังมีประเด็นอำพรางป้ายทะเบียนมาให้ดราม่ากันต่อ

นอกจากเหตุการณ์ร้อนๆ ที่ทะเลาะกันบนถนน ก็ยังมีประเด็นอำพรางป้ายทะเบียนมาให้ดราม่ากันต่อ 

เพราะเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 หรือปีที่ผ่านมา เพจดังที่สะท้อนการขับขี่บนท้องถนนเกี่ยวกับคนไร้วินัยจราจร หรือคนที่มักง่ายบนท้องถนนและถูกภาพจับเอาไว้ได้ ซึ่งเพจที่ว่าคือ "เพจเฮีย" และมักจะนำเสนอภาพของความมักง่ายบนท้องถนนมาสู่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งวันนั้นเอง เพจดังกล่าวก็ได้เผยแพร่ภาพรถยนต์ Honda Jazz สีขาว ทะเบียน 1 กญ 5331 ที่เจ้าของได้ใช้สีลบตัวเลขของเลขทะเบียน ซึ่งคาดว่าเป็นการดัดแปลงเลขทะเบียนด้วยตนเองเพียงเพื่อหวังจะได้เลขที่สวยถูกโฉลกตามที่ตนเองต้องการซึ่งรถคันนี้ก็เป็นคันเป็นรถยนต์คันเดียวกับ Honda Jazz คันที่ถูกหนุ่มข้าราชการกระโดดถีบจนเป็นข่าวดังล่าสุดนี้เช่นกัน

นั่นจึงยังคงเป็นคำถามว่าเหตุใดหญิงสาวผู้นี้จึงอาจจงใจปิดอำพรางป้ายทะเบียนของตัวเอง จะเป็นเพราะสาเหตุของ "ดวงชะตา" ตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ คนที่รู้คำตอบก็คงเป็นหญิงสาวคนนี้คนเดียวเท่านั้น

ป้ายทะเบียนเจ้าปัญหาของหญิงสาวคนดังกล่าวที่ดูเหมือนว่าจะโดนอีกคดีด้วย

ป้ายทะเบียนเจ้าปัญหาของหญิงสาวคนดังกล่าวที่ดูเหมือนว่าจะโดนอีกคดีด้วย 

อำพรางป้ายทะเบียนเท่ากับผิดกฎหมายอาญา 

แต่ประเด็นคือการปิดบังป้ายทะเบียนนั้นถือได้ว่ามีความผิดตามกฎหมายทีเดียว และเชื่อได้ว่าผู้ขับขี่รถยนต์รถจักรยานยนต์เองก็ตามบนท้องถนนก็ต้องรู้ดีอยู่แล้วแน่ๆ แต่ว่ากันตามความเป็นจริง ในท้องถนนเราก็ยังพบบางคนเอาสติกเกอร์มาปิดบังป้ายทะเบียนรถบางส่วนเอาไว้ หรือการนำทองมาปิดเพื่อความเป็นสิริมงคลเอง ซึ่งเราก็เห็นอยู่มากมายทีเดียวบนท้องถนน

อย่างที่บอกเอาไว้ว่ามันคือความผิด และเจ้าพนักงานอย่างตำรวจเมื่อพบเห็นก็สามารถจับปรับได้ทันที เพราะตามกฎหมายในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ พ.ศ.2522 ก็ระบุเอาไว้ชัดเจน ซึ่งนัยยะความหมายของกฎหมายที่ไม่ต้องการให้นำสิ่งใดมาอำพรางป้ายทะเบียน ก็เพื่อป้องกันการสวมทะเบียน หรือป้องกันและให้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่รถยนต์ที่ถูกขโมยมา หรือนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้ง หากมีการอำพรางป้ายทะเบียน ยังถือได้ว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย "อาญา" อีกด้วย

ดูเพิ่มเติม
>> 
ซื้อ พ.ร.บ. และต่อทะเบียนรถง่ายๆ แค่ไป 7-Eleven หน้าบ้าน!
>> เรื่องราวน่ารู้...รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป ต้องต่อภาษีอย่างไรบ้าง ?

ป้ายทะเบียนที่ถูกปิดทับ อำพราง หรือปกปิด ก็เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา

ป้ายทะเบียนที่ถูกปิดทับ อำพราง หรือปกปิด ก็เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา 

เพราะในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 อธิบายว่า ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แน่นอนว่า ป้ายทะะเบียนก็คือเอกสารทางราชการด้วยเช่นกัน เพราะทางกรมการขนส่ง เองมีกฏห้ามทำการดัดแปลง ต่อเติม หรือปิดบังเลขทะเบียนเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เพื่อระวังความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ เพราะมีโทษตั้งแต่ปรับไปจนถึงจำคุก โดยเจ้าของรถที่กระทำคล้ายกรณีดังกล่าวนี้จะอ้างว่าเลขทะเบียนไม่ถูกกับโฉลกหรือดวงของตนเองถือว่าฟังไม่ขึ้น  เพราะตาม พ.ร.บ.จราจร ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานปลอมแปลงเอกสาร จะต้องเป็นกรณีที่ผู้ใดได้ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ใขแผ่นป้ายทะเบียน หรือป้ายวงกลม รวมถึงเล่มหรือสมุดจดทะเบียน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร

กฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นความผิดที่ถึงกับต้องติดคุกเลย

กฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นความผิดที่ถึงกับต้องติดคุกเลย 

สำหรับป้ายทะเบียนรถนั้น ตามพ.ร.บ.รถยนต์ฯ จึงถือเป็นข้อกำหนดที่ชัดเจน เพราะเจ้าหน้าที่จะสันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าหากมีการดัดแปลง ปกปิด อำพรางป้ายทะเบียน จะถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายลักลอบขโมย หรือช่อโกงของการซื้อ-ขายรถยนต์ ปิดบังอำพราง หรืออาจจะคาบเกี่ยวกับเรื่องปลอมแปลงเอกสาร มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือหากเป็นป้ายทะเบียนจริง ก็ผิดฐานใช้รถและป้ายทะเบียนไม่ตรงกัน พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522.  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกียวข้องคงจะขยายผลในกรณีนี้ตามกฏหมายกับเจ้าของรถยนต์คันนี้ต่อไป

กับกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ตำรวจไม่อาจจะปฏิเสธการดำเนินคดีกับหญิงสาวเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สในความผิดที่เอาสติกเกอร์ไปแปะติดอำพรางป้ายทะเบียนของตัวเองได้ และมันแยกเป็นคนละกรณีกันกับเหตุทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม ในอีกส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าคนไทยยังคงมีความเชื่อเรื่องโชคชะตา และป้ายทะเบียนที่มีตัวเลขก็สอดรับกับความเชื่อของคนไทยด้วย ที่ว่าเลขดีเมื่อมาอยู่กับตัวเอง มาติดที่รถของตัวเองก็จะเป็นมงคลเดินทางปลอดภัย หรือเอาไปใช้ค้าขายก็จะได้ร่ำรวยไม่มีอุปสรรคใดๆ เราจึงเห็นภาพหลายคนที่เลือกซื้อรถใหม่ก็เลือกใช้ "ป้ายแดง" เลยกำหนดออกไปจนกว่าจะถึงเลขทะเบียนที่ตัวเองต้องการเพื่อไปติดต่อกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอจดทะเบียนตามเลขที่ต้องการ

คนไทยบางคนถือโชคชะตา แม้รู้ดีว่าการปิดบังป้ายทะเบียนเพื่อให้ได้เลขมงคลจะผิดกฎหมายก็ตาม

คนไทยบางคนถือโชคชะตา แม้รู้ดีว่าการปิดบังป้ายทะเบียนเพื่อให้ได้เลขมงคลจะผิดกฎหมายก็ตาม 

แต่บางคนก็เลือกจะติดสติกเกอร์เพื่อช่วยในแง่ความรู้สึกว่าเราได้เลขที่ชื่นชอบและเป็นมงคล แต่อีกด้านมันก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และแน่นอนว่าสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคอยบังคับให้สังคมอยู่กับร่องกับรอย สิ่งนั้นก็ไม่ควรทำ ดังนั้นผู้ใช้รถยนต์ทั้งหลายก็พึงปฏิบัติตามกฎหมาย จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ดูเพิ่มเติม
>> 
ดีเดย์ 1 ก.ค. "ค้างค่าปรับใบสั่ง" ไม่ได้ต่อภาษีรถ
>> วุ่นกลางถนนแต่จบที่โรงพัก "ทหารเรือวีออสVSสาวแจ๊ส" ทะเลาะกันเจอปรับทั้งคู่

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

JAIBOON