ทำความเข้าใจ 5 ระดับ ของรถยนต์ “ไร้คนขับ”

ประสบการณ์ใช้รถ | 22 มิ.ย 2561
แชร์ 2

ทุกวันนี้ เชื่อว่าคำว่า รถยนต์ไร้คนขับ รถยนต์อัจฉริยะ หรือ รถยนต์อัตโนมัติ นี้ คงไม่ใช่อะไรใหม่ที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อนแล้ว การพยายามสร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้การเดินทางโดยรถยนต์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เป็นแนวคิดที่ถือว่าเป็น “อนาคต” ของรถยนต์อย่างแท้จริง แต่คุณผู้อ่านรู้ใหม ไอ้คำว่ารถยนต์ไร้คนขับนี่ หรือรถยนต์อัตโนมัตินี้ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ระดับเดียวนะ วันนี้ ทีมงาน Chobrod จึงจะมาขออธิบายถึงระดับต่างๆ ของคำว่า “อัตโนมัติ” “อัจฉริยะ” “ไร้คนขับ” ที่บัญญัติโดย The SAE, the Society of Automotive

 

ทำความเข้าใจ 5 ระดับ ของรถยนต์ “ไร้คนขับ”

ทำความเข้าใจ 5 ระดับ ของรถยนต์ “ไร้คนขับ”

ดูเพิ่มเติม
>>  
คนเชื่อมต่อรถ เทรนด์โลก ใกล้ความจริง! “Connected Car รถยนต์อัจฉริยะ”
>>  แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"

ระดับที่1  รถและผู้ช่วยอัตโนมัติ : ใช้เทคโนโลยีเป็นผู้ช่วยในการขับขี่

ระดับ 1 มีข้อมูลช่วยตัดสินใจ สามารถบางอย่างเองได้ แต่คนชับต้องเป็นผู้ควบคุม


​ระดับ 1 มีข้อมูลช่วยตัดสินใจ แต่คนขับต้องเป็นผู้ควบคุม
 

โดยระดับที่ 1 นี้ คือระดับพื้นฐานที่สุด โดยจะเป็นรูปแบบที่ใช้ข้อมูลต่างๆ ของรถคันนั้นๆ ในการประมวลผลและสร้างเป็นแผนการขับขี่ที่ปลอดภัยขึ้นมา เช่นการใช้ภาพจากกล้องหรือใช้เซนเซอร์ของรถในการดูสภาพแวดล้อม ความเร็วของรถ การจราจรมาเป็นข้อมูล โดยระดับนี้ คนขับยังจำเป็นอยู่มาก เพราะข้อมูลต่างๆ จะถูกประมวลผลมา “ช่วย” ในการตัดสินใจเท่านั้น เช่นระบบ lane-keep assist ในรถหลายๆ รุ่น ที่จะคำนวนความเร็วและระยะห่างของล้อกับเส้นแบ่งเลน และเมื่อล้อของรถเข้าไกล้เลนมากเกินไป ก็จะมีการแจ้งเตือนไปยังคนขับเพื่อบังคับพวงมาลัย
 

ระดับที่ 2 รถยนต์ขับเคลื่อนเอง : คอมพิวเตอร์ทำให้ส่วนต่างๆ สามารถทำงานร่วมกัน

ระดับที่ 2 มีความสามารถในการเร่งความเร็วหรือเบรกเองได้ สามารถจอดรถเข้าสองเอง

ระดับที่ 2 มีความสามารถในการเร่งความเร็วหรือเบรกเองได้ สามารถจอดรถเข้าซองเอง
 

ระดับนี้เป็นระดับที่แอดวานซ์ขึ้นมาอีก เนื่องด้วยความฉลาดของคอมพิวเตอร์นั้นมากขึ้น จนสามารถคำนวนและสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างการเร่งความเร็ว และการควบคุมพวงมาลัยในเวลาเดียวกันได้ โดยระบบนี้พบได้รถหรูอย่างเช่น Mercedes S-Class ที่สามารถควบคุมทิศทางของรถ เร่งความเร็วและเบรค หรือรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าใว้ได้ นอกจากนั้นยังมีความสามารถที่สะดวกสบาย เช่น เปลี่ยนเลน หรือจอดเข้าซองอัตโนมัติอีกด้วย

 

ระดับที่ 3 รถยนต์ขับเคลื่อนเอง : หลังพวงมาลัยปลอดภัยแน่นอน

รถยนต์ “ไร้คนขับ”
ระดับที่ 3 ขับให้เสร็จสรรพ ขอเพียงนั่งสั่งการ

 

ระดับที่ 3 นี้คือระดับที่กำลังมีการพัฒนาอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง โดยจะเป็นระดับที่ รถจะทำหน้าที่ขับแทนคุณ คนขับมีหน้าที่ในการนั่งเพื่ออนุมัติคำขอต่างๆ เพียงเท่านั้น โดยรถยนต์ที่คาดว่าน่าจะรองรับระดับนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ได้แก่ new A8 ของ Audi โดยระดับนี้รถยนต์นี้จะมีความสามารถในการขับแทนมนุษย์ทุกอย่าง และมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีการใช้แผนที่ เรดาร์ และเซนเซอร์ในการคำนวนเพื่อสร้างการตัดสินใจที่รวดเร็วและปลอดภัย

 

ระดับที่ 4 รถยนต์ไร้คนขับ : ไม่ต้องนั่งหลังพวงมาลัยก็อุ่นใจ

 

รถยนต์ “ไร้คนขับ”

ระดับที่ 4 ไม่ต้องมีคนขับอีกต่อไป ไปได้ทุกที่ที่รถรู้จัก
 

ในอนาคตไม่ไกลนี้ รถจะสามารถขับด้วยตัวมันเองได้อย่างอิสระและปลอดภัยแม้ในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านอย่างเมืองหลวง ด้วยแผนที่ความละเอียดสูง การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างรถกับรถคันอื่นๆ ในระดับ 4 นี้ คุณไม่ต้องมีคนขับอีกต่อไป มันจะเหมือนกับการซือรถพร้อมคนขับที่คุณมองไม่เห็น เพียงแค่คุณบอกว่าอยากไปใหน รถจะคำนวนให้คุณและพาคุณไปยังที่หมายอย่างปลอดภัย แต่ข้อจำกัดของระดับนี้ คือจะสามารถขับแบบอัตโนมัติได้เฉพาะพื้นที่หรือเส้นทางที่มีการบันทึกใว้เท่านั้น

โดยรถยนต์ที่มีความสามารถระดับนี้คาดว่าจะวางขายในสหรัฐอเมริการได้ภายในปี 2022 นี้เอง ไม่นานเกินรอ

ระดับที่ 5 รถยนต์ไร้คนขับ : อัจฉริยะที่จะพาคุณไปทุกที่

รถยนต์ “ไร้คนขับ”

ระดับที่ 5 พวงมาลัยไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว

 

ความแตกต่างของระดับ 4 กับระดับ 5 นี่ก็ง่ายๆ เลย คือในระดับที่ 5 นี้ รถยนต์จะสามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่คุณต้องการ ได้โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้เส้นทางเส้นนั้นเลยก็ได้ และในระดับ 5 นี้ ก็อัตโนมัติในระดับที่ พวงมาลัย ไม่จำเป็นต่อการขับรถอีกต่อไปแล้ว โดยระดับ 5 นี้ คาดการณ์ใว้ว่ายังต้องรออีกอย่างต่ำ 10 ปี เนื่องจากยังขาดอะไรอีกหลายอย่าง ทั้งเทคโนโลยี การออกแบบ เพราะการที่ไม่มีพวงมาลัย ไม่มีคนขับ ทำให้้ห้องโดยสารนั้นเปลี่ยนรูปแบบไปหมด ทำให้อาจจะต้องรอนานซักนิด แต่เมื่อมาถึง นั่นคือโลกอนาคตที่เราเคยเห็นแต่ในหนังอย่างแท้จริงเลย

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย 
ขอบคุณภาพประกอบจาก CAR

 

ดูเพิ่มเติม
>>
จาก Galaxy Note สู่สี่ล้อ! Samsung วางแผนพัฒนาระบบรถไร้คนขับ

>>  ล้ำหน้าไปอีก! จีนออกมินิบัสรุ่นใหม่ ไร้คนขับ-คันเร่ง-พวงมาลัย เล็งผลิตขายกลางปีนี้