จอดรถทิ้งไว้นาน อยากนำกลับมาใช้ใหม่ มีอะไรต้องเช็กบ้าง?

ประสบการณ์ใช้รถ | 5 มี.ค 2564
แชร์ 0

ทิ้งรถจอดเอาไว้นานเป็นปี เพราะไม่มีเหตุต้องใช้ เกิดอยากกลับมาใช้อีกทีต้องเช็กอะไรบ้าง Chobrod พาไปตรวจสภาพ เมื่อจอดรถทิ้งไว้นาน ให้พร้อมก่อนนำกลับมาใช้งานใหม่

การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ อาจเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี เช่น มีรถคันใหม่ใช้ หรือเจ้าของรถไม่อยู่ ไปต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด ทำให้ไม่มีเหตุจำเป็นใด ๆ ต้องใช้รถ และอาจจะเกิดขึ้นเพราะเหตุการณ์ในปัจจุบัน ถึงการกักตัว งดออกเดินทางในช่วงที่โรคโควิดกำลังแพร่ระบาดก็ได้

เช็กอะไรบ้าง เมื่อนำรถกลับมาใช้ใหม่
เช็กอะไรบ้าง เมื่อนำรถกลับมาใช้ใหม่

รถบางคันจอดทิ้งไว้นาน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถกลับมาใช้ได้อีก วันดีคืนดีนึกอยากจะกลับไปเคาะฝุ่นกลับมาใช้ใหม่ และถึงแม้ก่อนที่จะจอดทิ้งไว้มันไม่มีอะไรพัง ก็อย่าเพิ่งเข้าใจว่าจะไม่ต้องเช็กอะไรและนำกลับมาสตาร์ตเครื่องและใช้ได้เลย เพราะรถที่ถูกจอดทิ้งไว้นานนั้น ก็จะเกิดการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ได้เช่นถึงแม้จะไม่ได้ถูกนำไปใช้ก็ตาม เพราะทุกอย่างล้วนมีอายุการใช้งานของมัน ดังนั้นก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ มาลองเช็กกันก่อน ว่ามีอะไรบางที่ต้องเช็ก

เริ่มจากการทำความสะอาด

ไม่ต้องคิดเลยว่าสิ่งแรกที่จะต้องเจอเมื่อกลับมาใช้รถที่จอดทิ้งไว้นานจะต้องเจอกับอะไร คำตอบก็คือ ฝุ่น นั่นเอง ซึ่งมันอาจจะไม่ได้มีแค่ฝุ่น มันยังมีเชื้อรา เชื้อโรคที่แฝงมาเป็นภัยต่อสุขภาพและรถได้ ไม่ว่าจะเรื่องของคราบดำ หรือว่าสนิม ที่จะทำลายอะไหล่หรือสีตัวรถ

ทำความสะอาดรถก่อนตรวจสภาพ

ทำความสะอาดรถก่อนตรวจสภาพ

ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการทำความสะอาดรถของคุณทั้งภายนอกและภายใน เพื่อที่จะได้สะดวกในการตรวจสภาพและเช็กอุปกรณ์อื่น ๆ ต่อไป

เช็กแบตเตอรี่

รถจอดทิ้งไว้นาน สตาร์ตไม่ติด เป็นปัญหาธรรมดามาก ๆ ที่อาจจะต้องเจอ เพราะแบตเตอรี่รถยนต์อาจเกิดการเสื่อมสภาพได้ตามอายุการใช้งาน เพราะถึงจะไม่ได้ใช้รถ แต่แบตเตอรี่รถยนต์ยังคงจ่ายไฟเพื่อรักษาสภาพต่าง ๆ ในส่วนเครื่องยนต์เอาไว้ ส่งผลให้แบตหมดเร็วและเสื่อมสภาพ

เช็กแบตรถยนต์ว่าหมดอายุหรือไม่
เช็กแบตรถยนต์ว่าหมดอายุหรือไม่

ดังนั้นก่อนใช้งานให้เช็กสภาพแบตเตอรี่เอาไว้ก่อน ซึ่งให้ตรวจเช็กที่สัญลักษณ์การใช้งานหรือที่เรียกว่าตาแมว ถ้ามีสีขาวแสดงว่ารถแบตหมด หรือสังเกต ถ้าไม่ได้ติดเครื่องและลองเปิดกระจกไฟฟ้าแล้วพบว่าทำงานช้าลง ไฟสว่างได้ไม่เต็มที่ หรือวิทยุเปิดไม่ติด และสตาร์ตไม่ติด หมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์หมดประจุ

หากตรวจเช็กแล้วพบว่าแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ ให้ทำการสตาร์ตรถทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีเพื่อทำการวอร์มเครื่อง ในช่วงแรก ๆ ให้ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้แบตเตอรี่รถ

เช็กยางรถยนต์

ขณะที่รถจอดเอาไว้ น้ำหนักของตัวรถยนต์ทั้งหมดนั้น จะลงสู่ยางแต่ละเส้นในตำแหน่งเดียว ส่งผลให้โครงสร้างยางเสียรูป ไม่คืนตัว อยู่ในลักษณะที่จะทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อนำไปขับจะมีการสั่นและเกิดเสียงดังผิดปกติ

ยางรถที่จอดไว้นาน จะเสียรูปทรงได้
ยางรถที่จอดไว้นาน จะเสียรูปทรงได้

ดังนั้นเมื่อพบว่ายางรถยนต์นั้นเกิดการเสียรูปให้ทำการเติมลมยางมากกว่าปกติ ประมาณ 5-10 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และนำรถไปขับขี่ให้ยางได้หมุนบ้าง และหมั่นเช็กในการขับขี่ระยะใกล้ ๆ ก่อนจะนำไปขับจริง เพื่อที่จะให้ไม่เกิดปัญหาตามมาในการขับขี่บนถนนใหญ่ในภายหลัง

ของเหลวในรถยนต์

การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้ของเหลวในรถยนต์แห้ง และทำให้อุปกรณ์บางจุดขึ้นสนิมได้  เมื่อนำรถกลับมาใช้ใหม่ ให้เช็กชุดของเหลวเหล่านี้

รถจอดไว้นาน ฝุ่นเกาะจนมีคนจับมาเป็นงานศิลปะ
รถจอดไว้นาน ฝุ่นเกาะจนมีคนจับมาเป็นงานศิลปะ

  • น้ำมันเครื่อง : หลังจากดับเครื่องยนต์ไปแล้ว 5 นาที ให้ใช้ก้านวัดระดับน้ำมันที่เช็ดทำความสะอาดแล้ว เสียบกลับเข้าไปอีกครั้ง โดยระดับของน้ำมันเครื่องที่ดี ควรอยู่ระหว่างกึ่งกลางของ Max และ Min หากต่ำกว่า Min เครื่องยนต์จะสึกหรอเร็ว ถ้ามากเกิน Max จะเกิดการเผาไหม้ที่เกินพอดี ให้หมั่นตรวจเช็กสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และตรวจให้แน่ใจว่าน้ำมันเครื่องยังไม่เสื่อมสภาพ
  • น้ำมันเบรก : ควรเป็นจุดที่หมั่นเช็กอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าปล่อยให้น้ำมันแห้งจนหมด จะส่งผลให้การเบรกไร้ประสิทธิภาพ โดยระดับน้ำมันเบรกควรอยู่ที่ Max เสมอ ซึ่งหากใครทิ้งไว้นานไม่เคยตรวจดูเลย ก่อนนำรถที่จอดไว้นาน ๆ กลับมาใช้อีกครั้ง ให้เช็กให้แน่ใจว่าน้ำมันเบรกยังคงมีปริมาณที่เหมาะสมและสามารถใช้ได้อยู่
  • น้ำในหม้อน้ำ : การจอดรถทิ้งเอาไว้นาน อาจทำให้น้ำมันในหม้อน้ำแห้งได้ และเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสนิมได้ โดยปกติแล้วควรล้างและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันทุก ๆ 6 เดือน และเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยให้เติมน้ำยาหล่อเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิม
  • น้ำกลั่นแบตเตอรี่ : เช็กด้วยการสตาร์ตรถยนต์ เพื่อดูระบบไฟในรถยนต์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น เสียงแตรแผ่วไม่ชัดเจน แอร์ไม่เย็น หรือไฟไม่สว่าง อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่เสื่อมที่อาจเกิดจากน้ำกลั่นแบตเตอรี่หมด ให้เปิดเช็กฝาแบตเตอรี่ออกทั้ง 6 ฝา เพื่อดูว่าน้ำกลั่นอยู่ในระดับมาตรฐานหรือหมดหรือไม่ โดยน้ำกลั่นควรจะเติมทุก 1 สัปดาห์

หากรถของคุณถูกจอดเอาไว้และต้องการคืนชีพกลับมาใช้ใหม่ ลองเช็กสภาพรถด้วยวิธีการเหล่านี้  และควรตรวจให้แน่ใจว่าทุกส่วนใช้งานได้จริง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถของคุณ

 ดูเพิ่มเติม
>> วิเคราะห์ปัญหา ทำไมสุนัขฉี่ใส่ล้อรถยนต์ พร้อมวิธีรับมือ

>> ยางมะตอยติดรถ ต้องทำอย่างไร ?

เข้าดู ตลาดรถ ได้ที่นี่

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ