คนเชื่อมต่อรถ เทรนด์โลก ใกล้ความจริง! “Connected Car รถยนต์อัจฉริยะ”

ประสบการณ์ใช้รถ | 24 พ.ค 2561
แชร์ 2

ยิ่งนับวัน การสอบใบขับขี่รถยนต์ ที่กรมการขนส่งทางบก ยิ่งมีความยากลำบากมากขึ้นเมื่อเทียบกับสมัยก่อนย้อนไป 5-10 ปีที่แล้ว ซึ่งทั้งนี้ เรา ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันย่อมจะเข้าใจหัวอกของบุคคลที่ยังขับรถไม่เป็น และต้องไปสอบใบขับขี่ เพื่อให้ได้ใบอนุญาตขับขี่รถมาใช้งาน

ทว่า จะดีกว่าไหม  หากในอนาคต คุณไม่จำเป็นที่จะต้องขับรถยนต์เป็นก็ได้..  แต่ก็สามารถเป็นเจ้าของรถและสามารถนั่งรถยนต์ของคุณเดินทางไปทำงาน  หรือออกคำสั่งให้รถขับขี่ไปทำธุระ  ให้ขับพาไปท่องเที่ยวหรือพาขับไปช็อปปิ้งตามสถานที่ต่างๆ  ฯลฯ  ได้ดั่งใจที่คุณปรารถนา โดยที่มือของคุณไม่ต้องสัมผัสพวงมาลัย หรือเท้าของคุณก็ไม่ต้องเหยียบเบรกเลยสักนิด..?

เชื่อเถอะครับว่า ความคิดที่ว่า “เราไม่ต้องขับรถ แต่ให้รถขับแทนเรา แล้วพาเราไปในทุกที่ๆ เราต้องการ”  มันจะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนี้ มีเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยที่ถูกเรียกกันว่า  “Connected car รถยนต์อัจฉริยะ”  หรือที่หลายคนรู้จักและเรียกมันว่า “เทคโนโลยี 5G”  โดย Connected car รถยนต์อัจฉริยะ เป็นนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตซึ่งได้ถือกำเนิดและได้รับการพัฒนาขึ้นมาแล้ว ในงาน Mobile World Congress 2017 ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน สร้างความฮือฮาและตื่นเต้นให้กับแวดวงนวัตกรรมยานยนต์ทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะหลายคนมองว่า เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่คาดการณ์ว่า คงใช้เวลาในการคิดค้นพัฒนาอีกหลายปี แต่มันกลับกลายเป็นย่นย่อและใกล้ความจริงเข้ามาทุกขณะ

 

Connected car รถยนต์อัจฉริยะ

“Connected car รถยนต์อัจฉริยะ”  หรือ เทคโนโลยีรถยนต์ขับเอง หรือ รถยนต์ไร้คนขับนี้ กำลังใกล้สู่ความเป็นจริงและเป็นเรื่องใกล้ตัวมนุษย์มากขึ้น เนื่องจากว่า  มีค่ายรถยนต์หลายค่าย ซึ่งได้เริ่มทดสอบเป็นจริงเป็นจัง  โดยที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ  หน่วยงานด้านยานยนต์ (Department of Motor Vehicles:DMV) ของ California ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายฉบับใหม่ เพื่ออนุญาตให้นำรถยนต์ไร้คนขับมาวิ่งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเช่นเดียวกับ กฎหมายของรัฐ Michigan เมื่อปลายปีที่แล้ว (ปี 2017)

รูปเเบบรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต 

สำหรับกระบวนการ การทดลองสมรรถภาพ  “Connected car รถยนต์อัจฉริยะ" โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก นั้น  ขอยกตัวอย่างที่กล่าวมา คือ DMV  นั้น ได้ถูกกำหนดให้ต้องมีคนขับรถนั่งอยู่ที่เบาะหน้ารถ เพื่อควบคุมการทำงานของรถยนต์หากเกิดเหตุผิดปกติ และบริษัทผู้ผลิตจำเป็นจะต้องส่งบันทึกการเดินทางโดยละเอียดไปยังหน่วยงานยานยนต์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยโฆษกประจำ DMV กล่าวว่า

“นี่ถือเป็นการก้าวไปอีกขั้น สำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ และการนำรถยนต์ไร้คนขับดังกล่าวไปใช้งานสาธารณะ  ทั้งนี้ผู้ผลิตจะต้องมีความพร้อมในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับนี้ โดยให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดจากรถไร้คนขับ”

ดูเพิ่มเติม:
>> แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"

>> มาดูรถไร้คนขับของ Waymo ที่ทิ้งยักษ์ใหญ่แบบไม่เห็นฝุ่น

หากอนาคต เราสามารถ สั่งการและควบคุม ยานยนต์ผ่าน Hologram มันจะเป็นอย่างไรนะ!?

หากอนาคต เราสามารถ สั่งการและควบคุม ยานยนต์ผ่าน มันจะเป็นอย่างไรนะ!?

หากอนาคต เราสามารถ สั่งการและควบคุม ยานยนต์ผ่าน Hologram มันจะเป็นอย่างไรนะ!?

และเมื่อพูดถึงเรื่อง  Connected car รถยนต์อัจฉริยะ  เทคโนโลยีไร้คนขับ หรือ รถขับเองได้ นั้น  ความเคลื่อนไหวสำหรับค่ายรถยักษ์ใหญ่ ก็มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวกันอย่างคึกคักและอย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่าง กระบวนการทดสอบนวัตกรรมรูปแบบรถไร้คนขับของค่าย BMW ในรถรุ่น Mini BMW ที่คาดว่า ในอนาคตอีกไม่ถึง 100 ปี  ข้างหน้า ยานยนต์จะได้รับการพัฒนาไปถึงขีดสุด โดยจินตนาการว่า ยานยนต์จะมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

ภาพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ ในจินตนาการของ Mini BMW ในอีกประมาณ 100 ปีข้างหน้า

ภาพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ ในจินตนาการของ อีกประมาณ 100 ปีข้างหน้า 

ภาพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ ในจินตนาการของ Mini BMW ในอีกประมาณ 100 ปีข้างหน้า

1. ประตูเลื่อนเปิด-ปิดอัตโนมัติ 
ซึ่งนอกจากไม่ต้องขับรถเองให้เมื่อยแล้ว การจะขึ้นรถลงรถก็ยังเป็นเรื่องง่าย เพราะประตูเป็นแบบเลื่อนเปิด-ปิดเองอัตโนมัติ

2. รถยนต์สามารถยิง Hologram ต้อนรับได้ด้วย
โดยนอกจากรถยนต์ของเราจะควบคุมและขับเองได้แล้วยังทักทายเจ้าของรถได้อีก แถมไม่ใช่ทิศใดทิศหนึ่ง  แต่มันสามารถวิ่งรอบประตูรถได้เลยทีเดียว คราวนี้เราคงมีความสุขกับการนั่งชิลๆ อยู่ในรถอย่างน่าเพลิดเพลินเป็นที่สุด

3. มีกล้องส่องทางไกลติดอยู่กึ่งกลางรถเพื่อทำหน้าที่แทนคอนโซลควบคุมรถ
ข้อนี้สำคัญเพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยมากๆ ซึ่งรถไร้คนขับนี้จะมีกล้องส่องทางไกลที่ควบคุมโดยสมองกลเพื่อการตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนรอบๆ รถให้ปลอดภัยที่สุด  เพื่อทดแทนแผงควบคุมรถในส่วนต่างๆ เมื่อเป็นแบบนี้ก็จะทำให้เราสามารถโดยสารได้อย่างสะดวกสบายและลดความกังวลได้มากเลยทีเดียว

4. หากต้องการขับขี่เองจะมีปุ่มกดเพื่อให้รถยนต์แนะนำเส้นทาง
หากวันไหนเบื่อๆ อยากขับรถเองบ้าง เจ้ารถไร้คนขับ ก็จะมีการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดให้ โดยคำนวณจากเวลาในการเดินทาง สุดยอดจริงๆ !!

รูปเเบบรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต

รูปเเบบรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต

รูปเเบบรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต 

เห็นไหมละครับ!?   ว่า ต่อจากนี้ไป  Connected car รถยนต์อัจฉริยะ  เทคโนโลยีไร้คนขับ หรือ รถขับเองได้ นั้น  จะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน หรือมีอยู่แค่ในฉากภาพยนตร์อีกต่อไป  และเราก็เชื่อแน่ๆ ว่า  ในอนาคตหากรถไร้คนขับทำได้สำเร็จจะต้องเป็นที่นิยมมากเลยทีเดียว ทว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง ณ วันนี้  เราทุกคนก็คงอาจจะต้องร้องเพลงรอไปก่อนอีกสักพักหนึ่ง แต่รอมาหลายสิบปีแล้ว ถ้านวัตกรรมดังกล่าวจะเป็นจริงขึ้นมาได้จริงๆ 100 เปอร์เซ็นต์  จะให้รออีกไม่กี่ปี ก็คงจะไม่เป็นอะไรมากหรอก.. จริงไหมครับ?

แท็ก Connected Car