Mitsubishi Attrage 2018 ปะทะ Toyota Vios 2018 รุ่นไหนคุ้มค่ากว่ากัน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 16 ต.ค 2561
แชร์ 1

สำหรับรถซีดานที่มีตลาดกว้างมากในประเทศไทย ที่ถูกตีตลาดโดยรถ Eco Car สไตล์ซีดานมาสักพักใหญ่ ถ้าหากนำมาเทียบกันรถยนต์รุ่นไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน วันนี้ Chobrod จะนำมาเปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างชัดเจน

Mitsubishi Attrage 2018 กับโฉมใหม่ทันสมัยยิ่งกว่าเคย

Mitsubishi Attrage 2018 กับโฉมใหม่ทันสมัยยิ่งกว่าเคย

New Toyota Vios 2018 รูปลักษณ์ใหม่กับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว

New Toyota Vios 2018 รูปลักษณ์ใหม่กับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว

หลังจากที่ได้ Miner change กันไปแล้วระหว่าง Mitsubishi Attrage กับ Toyota Vios รถยนต์ซีดานที่ดูจะมีความใกล้เคียงกันเสียเหลือเกิน มาดูกันว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะแตกต่างกันอย่างไร และเลือกซื้อรุ่นไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน Chobrod จะพาไปชมอย่างละเอียด เริ่มกันที่รูปลักษณ์ภายนอกของทั้ง 2 รุ่นกันเลยค่ะ

Mitsubishi Attrage กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และเส้นสายที่ดูลุ่มลึกรอบคัน

Mitsubishi Attrage กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และเส้นสายที่ดูลุ่มลึกรอบคัน

Mitsubishi Attrage 2018

มาพร้อมกับมิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) ที่ 1,670x4,305x1,505 มม. ที่ได้รับการดีไซน์เส้นสายรอบคันให้ดูลุ่มลึกแต่แฝงไว้ด้วยความโฉบเฉี่ยวสุดทันสมัยผสานกับกระจังหน้าโครเมียมแนวขวางที่เรียงซ้อนกัน ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์พร้อมชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้า เสริมด้วยการติดตั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าที่ได้รับการตกแต่งด้วยกรอบโครเมียม และกันชนด้านหน้าสีเดียวกับตัวรถ เสริมด้วยคิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งแบบโครเมียม มือเปิดประตูด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ ไToyota Vios 2018ฟท้ายดีไซน์ใหม่ล่าสุด กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ ส่วนช่วงล่างในรุ่น GLX CVT ได้รับการติดตั้งล้อเหล็กพร้อมฝาครอบล้อขนาด 14 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 175/65 R14

ดูเพิ่มเติม
>> 5 อันดับยานยนต์ไร้คนขับสุดล้ำในอนาคต!​
>> พาคุณไปดูรถยนต์ Toyota Camry ที่แพงที่สุดในแต่ละปี​

Toyota Vios ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พรีเมียมเหนือระดับ

Toyota Vios ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พรีเมียมเหนือระดับ

Toyota Vios 2018

มาพร้อมกับมิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) ที่ 1,700x4,420x1,475 มม. มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียมเหนือระดับ และสมรรถนะที่เหนือกว่าให้คุณทำทุกสิ่งได้ตามใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ ด้วยการปรับเปลี่ยนเพิ่มความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว ด้วยชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์รมดำ พร้อม LED Light Guide, กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สีเทาดำ เมทัลลิก, กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่พร้อมยางขนาดกว้าง 195/50 R16, คิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วยแถบโครเมียมดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่

ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกขอให้คะแนนกับทาง Toyota Vios มากกว่า ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย น่าดึงดูดใจ ไม่ใช่ว่าทาง Mitsubishi Attrage จะด้อยกว่า แต่ด้วยแนวทางการดีไซน์ที่แตกต่างกัน Mitsubishi Attrage ไม่ได้เน้นไปทางการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมากนัก แต่เน้นความกลมกลืนของเส้นสายที่มากกว่า ซึ่งต่างจาก Toyota Vios ที่เน้นเส้นสายโฉบเฉี่ยว และดึงดูดให้เลือกซื้อมากกว่า

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black กับดีไซน์ที่ดูสุขม นุ่มนวล

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black กับดีไซน์ที่ดูสุขม นุ่มนวล

2.การตกแต่งภายใน

Mitsubishi Attrage 2018

ภายใน Mitsubishi Attrage 2018 ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตจากวัสดุแบบเปียโนแบล็คพร้อมสร้างความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า โดยเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ และ ติดตั้งพนักพิงศีรษะด้านหลัง 3 ตำแหน่ง เสริมด้วยไฟส่องสว่างบริเวณพื้นรถสีน้ำเงินรวมถึงสีขาว บริเวณประตูฝั่งคนขับได้รับการตกแต่งด้วยแผงครอบสวิตช์ประตูและกระจกไฟฟ้า ให้ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นจากฝาครอบบันไดสแตนเลสติดตั้งสัญลักษณ์ Mitsubishi Attrage ติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดครบครัน อาทิ พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำได้ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบอเนกประสงค์พร้อมมาตรวัดการขับขี่แบบ Semi High Contrast สัมผัสบรรยากาศอันสดชื่นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Mitsubishi Attrage เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากยิ่งขึ้นด้วยช่องเก็บของบริเวณคอนโซลหน้า และ ช่องเก็บของใต้คอพวงมาลัย ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง และ ช่องเก็บของข้างประตูคู่หน้าพร้อมช่องใส่ขวดน้ำ ให้ความบันเทิงในทุกทริปการขับขี่ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์จาก 2 Din บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD และ MP3 ติดตั้งระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียง Siri รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ เสริมด้วยการติดตั้งสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมสวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และ ปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

ภายในตกแแต่งในดีไซน์สปอร์ต ที่เลือกใช้โทนสีดำ-แดง และแซมด้วยวัสดุ Piano Black ที่แผงควบคุม

ภายในตกแแต่งในดีไซน์สปอร์ต ที่เลือกใช้โทนสีดำ-แดง และแซมด้วยวัสดุ Piano Black ที่แผงควบคุม

Toyota Vios 2018

ต่อเนื่องและเติมเต็มความสปอร์ตให้ชัดเจนยิ่งขึ้นที่ภายใน กับโทนการตกแต่งที่ใช้สีดำ-แดง ทั้งแผงแดชบอร์ด แผงประตู และเบาะนั่ง แอบแซมด้วยวัสดุ Piano Black ที่แผงควบคุมตรงกลาง และแผงควบคุมกระจก เสริมด้วย optionsพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button, ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ-แดง วัสดุเป็นหนัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสัมผัส, เครื่องเสียง 2DIN แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับวิทยุ AM-FM, Bluetooth, AUX/USB/CD/MP3/ DVD

เรียกได้ว่าสูสีกันเลยทีเดียว ในส่วนของเรื่องการตกแต่งภายใน และ Options เสริมที่จะได้รับ แต่ Mitsubishi Attrage จะเป็นรองเพียงแค่ตัวหน้าจอสัมผัสที่เล็กกว่า แต่ในส่วนของตัวห้องโดยสารถ้าหากว่าชอบการตกแต่งแบบเรียบๆ Mitsubishi Attrage ก็ค่อนข้างตอบโจทย์อย่างดีเลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าชอบความสปอร์ตอีกระดับ Toyota Vios ก็ค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่า ในส่วนนี้จึงต้องขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของผู้ขับขี่เสียมากกว่า

เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว ทำงานควบคู่กับระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC

เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว ทำงานควบคู่กับระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC

ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ทำงานพร้อมกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS III

ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ทำงานพร้อมกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS III

3. ขุมพลังเครื่องยนต์

Mitsubishi Attrage 2018

Mitsubishi Attrage 2018 ให้ทุกการขับขี่สร้างอัตราการเร่งได้อย่างดีเยี่ยมผ่านขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เสริมด้วยนวัตกรรมท่อไอดีแบบพิเศษเพื่อให้อากาศไหลเข้าเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้นผสานกับระบบวาล์วแปรผันด้านไอดีแบบ MIVEC ที่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองทุกอัตราการเร่งในทุกรอบความเร็วของเครื่องยนต์ โดยระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการติดตั้งมาในรถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ประมวลผลผ่านสมองกลแบบอัจฉริยะส่งผลให้ในทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำ และ นุ่มนวลมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกการขับเคลื่อน ทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบอัจฉริยะ INVECS III (Intelligent & Innovative Vehicle Electronic System III) ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการวิเคราะห์ลักษณะนิสัยการขับขี่ของผู้ใช้รถแต่ละคน เพื่อนำไปประมวลผลในการเปลี่ยนเกียร์ซึ่งระบบดังกล่าวถือเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุดจากมิตซูบิชิ และ ระบบ G-Sensor ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างง่ายดาย และ แม่นยำมากขึ้นอีกด้วย

เครื่องยนต์ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ

เครื่องยนต์ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ
เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 Speed พร้อมระบบล็อคพูเล่ย์
เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 Speed พร้อมระบบล็อคพูเล่ย์

Toyota Vios 2018

ในส่วนของ Toyota Vios 2018 ยังคงใช้เป็นเครื่องยนต์เดิม รหัส 2NR-FBE ขนาด 1.5L 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 140 Nm ที่ 4,200 รอบต่อนาที จับคู่การทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 Speed พร้อมระบบล็อคพูเล่ย์ รองรับการทำงานของเชื้อเพลิง E85 ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนที่คู่หน้า พร้อมรองรับน้ำมัน E85 เน้นความประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ตอบสนองต่อการใช้งานอย่างดี และทำให้การขับขี่นุ่มนวลราบรื่น นอกจากนี้ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ

เรื่องของความแรงก็คงต้องยกให้ Toyota Vios อีกเช่นกัน แต่ในเรื่องการประหยัดน้ำมันคงต้องยกให้ทาง Mitsubishi Attrage เป็นผู้ชนะ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 22 กม./ลิตร ที่เรียกได้ว่าสูงมากเลยทีเดียว

ตัวถังนิรภัย RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution)

ตัวถังนิรภัย RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution)

เข็มขัดนิรภัยดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบดึงกลับคู่ (Double Pretensioner and Force-limiter)

เข็มขัดนิรภัยดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบดึงกลับคู่ (Double Pretensioner and Force-limiter)

4. ระบบความปลอดภัย

Mitsubishi Attrage 2018

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล แม้ในการขับขี่บนถนนขรุขระ พร้อมให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยขณะขับขี่ที่มีความเร็วสูง ได้มาตรฐาน Euro 4 ผ่านการรองรับมาตรฐานมลพิษระดับ 4 (Euro 4) จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 2540-2554 รวมทั้งยังผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย  ด้วยการทดสอบการชนด้านหน้า เพื่อพิสูจน์ความปลอดภัยในเรื่องการปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านหน้า มาพร้อมกับตัวถังนิรภัย RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่ถูกดีไซน์เพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสาร ทำให้ห้องโดยสารเสียหายจากการชนน้อยที่สุด เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้ารถและด้านข้างรถ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ระบบเบรกแบบ ABS (Antilock Braking System), ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake-force Distribution), เข็มขัดนิรภัยดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบดึงกลับคู่ (Double Pretensioner and Force-limiter)

ถุงลมนิรภัยเสริมความปลอดภัยคู่หน้า

ถุงลมนิรภัยเสริมความปลอดภัยคู่หน้า

 ดิสก์เบรก หยุดรถอย่างมั่นใจมาขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนคู่หน้า

 ดิสก์เบรก หยุดรถอย่างมั่นใจมาขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนคู่หน้า

Toyota Vios 2018

มาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลและมั่นคง – ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงแข็งแกร่งให้การทรงตัวมีเสถียรภาพในทุกสภาพถนนและทุกสถานการณ์ของการขับขี่ ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) – ด้วยการดีไซน์หลังคาแบบ Catamaran ช่วยลดแรงปะทะของลมพร้อมทั้งฟินที่ถูกติดตั้งบริเวณกระจกมองข้างและไฟหลัง ส่งผลให้อัตราการประหยัดน้ำมันและการทรงตัวดีขึ้นโฉบเฉี่ยวได้เหนือใครมั่นใจได้ทุกเส้นทางเติมเต็มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย กล้องมองหลังและสัญญาณกะระยะถอยหลัง – เพิ่มความปลอดภัย มั่นใจทุกครั้งเมื่อถอยจอด, ดิสก์เบรก หยุดรถอย่างมั่นใจมาขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนคู่หน้า ช่วยป้องกันความร้อนสะสมขณะเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน, ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) – ป้องกันล้อล็อก เมื่อเบรกอย่างกะทันหันทำให้สามารถควบคุมรถได้ในสถานการณ์คับขัน, ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) – ในกรณีเบรกแบบกะทันหัน ระบบ BA จะช่วยเพิ่มแรงเบรกให้มากขึ้น เพื่อให้รถหยุดในระยะที่สั้นกว่า, ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution), ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA   ที่ให้ความปลอดภัยมาตฐานระดับโลก แข็งแรงด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง พร้อมคานนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างการออกแบบเพื่อลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง  ออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทรกศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ปลอดภัยใกล้เคียงกันเลยทีเดียว ด้วยระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มทั้ง 2 รุ่น ในส่วนของข้อความปลอดภัยของให้คะแนนเท่ากันในทั้ง 2 รุ่นนี้แล้วกันค่ะ

Mitsubishi Attrage 2018 กับความคุ้มค่าเหนือความคาดหมาย

Mitsubishi Attrage 2018 กับความคุ้มค่าเหนือความคาดหมาย

New Toyota Vios 2018 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ และความปลอดภัยเหนือระดับ

New Toyota Vios 2018 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ และความปลอดภัยเหนือระดับ

ดูเพิ่มเติม
>> 
มาแล้วจ้า !! Toyota Supra 2019 ประเดิมจองที่ประเทศอังกฤษเป็นที่แรก
>> 
Mitsubishi ASX Juro 2018 เมื่อ RVR ที่อังกฤษมีรุ่นเล็ก​

สรุป

Toyota Vios คือผู้ชนะในเคมเปญนี้ในทุกด้าน แต่เราจะมาเฉือดเฉือนกันด้วยราคา โดย Toyota Vios มีราคาเริ่มต้นที่ 609,000 บาท และ Mitsubishi Attrage  มีราคาเริ่มต้นที่ 511,000 บาท เท่านั้น สำหรับในส่วนของสมรรถนะที่ได้แม้จะด้วยไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับราคา Mitsubishi Attrage แล้ว สามารถพูดได้ว่ายังคุ้มค่าอยู่ ในเรื่องของราคาต้องยอม Mitsubishi Attrage เลยจริงๆ

เป็นอย่างไรบ้างคะดับทั้ง 2 รุ่นนี้ เรียกได้ว่ามีความใกล้เคียงกันมมากเลยทีเดียว แค่อย่างไรก็ตามหากท่านผู้อ่านได้อ่านแล้วยังรู้สึกลังเลอยู่ Chobrod ขอแนะนำให้ได้ลองขับทั้ง 2 รุ่นนี้ดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ และสำหรับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับรถอย่าลืมติดตามกันได้ที่ Chobrod.com นะคะ

แท็ก Mitsubishi Attrage