6 เรื่องสำคัญ ที่ผู้ขายไม่อยากบอกกับคุณตอนออกรถยนต์มือสอง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 7 ก.ย 2564
แชร์ 25

อยากได้รถมือสองสักคัน ต้องรู้เท่าทันคนขาย พบกับ 6 เรื่องของประสบการณ์ซื้อรถมือสอง เรื่องที่คนขายไม่อยากบอกกับคุณเมื่ออกรถยนต์มือสอง จะมีอะไรบ้างนะ? เราจะพาไปดู

เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปที่เต็นท์รถมือสอง เพื่อหวังจะซื้อรถสักคัน คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างดีพร้อมคำตอบกับคำถามเกี่ยวกับรถแต่ละคันโดยผู้ขาย หรือเจ้าของเต็นท์ แต่อาจมีบางคำถามที่ผู้ขายไม่อยากจะตอบคุณสักเท่าไร หรือไม่ยอมบอกคุณตั้งแต่แรกก่อนที่คุณจะตกปากรับคำ ตอบตกลงซื้อรถ คนที่ไม่มีประสบการณ์ซื้อรถมือสองมาก่อน อาจจะรู้ไม่เท่ากัน วันนี้เราจะพาไปดู 6 เรื่องที่ผู้ขายไม่ได้บอกคุณตั้งแต่แรก หรือป้ายประกาศโฆษณาหน้ารถที่ปิดประกาศขายบอกไม่หมด จนอาจทำให้ผู้ที่สนใจอยากออกรถยนต์มือสองเข้าใจผิดได้ เราไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ผู้ไม่ค่อยอยากบอกกับคุณ

ดูเพิ่มเติม

>> 6 อันดับ เต้นท์รถมือสองยอดนิยมในกรุงเทพฯ

1.ป้ายฟรีดาวน์ ผ่อนถูก

เห็นกันได้บ่อยเมื่อคุณผ่านเต็นท์ขายรถ จะมีป้ายติดตัวโตๆ ว่า ฟรีดาวน์ สำหรับมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ซื้อรถมือสองมาก่อน อาจจะยังไม่เข้าใจในความหมายของคำนี้ ฟรีดาวน์ความหมายของมันก็คือ คุณสามารถเป็นเจ้าของรถมือสองคันที่คุณต้องการซื้อได้ ถ้าคุณเครดิตดี กู้ไฟแนนซ์ได้สูงเทียบเท่าราคาของตัวรถ ก็นำเงินที่กู้มานั้นจ่ายเป็นค่ารถทั้งหมดไป ไม่ต้องมีวงเงินไว้สำหรับจ่ายค่าดาวน์ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถได้รับสิทธิ์นี้ อย่างที่บอก ก็ต้องดูว่าเครดิตคุณดีแค่ไหน ดีมากพอที่จะกู้ได้เต็มหรือเปล่า ถ้าหากไม่ใช่ การมีเงินเตรียมไว้สำหรับค่าดาวน์เอาไว้เป็นแผนสำรองที่ดีกว่า

ฟรีดาวน์ก็ต่อเมื่อคุณสามารถกู้ได้เต็ม
ฟรีดาวน์ก็ต่อเมื่อคุณสามารถกู้ได้เต็ม

ส่วนคำว่าผ่อนถูก  นั่นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่างวดแพง ๆ ในแต่ละงวด เมื่อระยะเวลาผ่อนชำระคุณยาวนาน 5 ปี 7 ปี แต่!อย่าลืมว่ายิ่งผ่อนนานเท่าไร ดอกเบี้ยเงินกู้ของคุณก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย คำแนะนำคือ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องฟรีดาวน์หรือผ่อนถูกอะไรทั้งนั้น เป็นเพียงแค่คำโฆษณาที่ทางเต็นท์ต้องการบอกกับคุณว่า ซื้อรถได้ง่าย เป็นเจ้าของรถได้ง่าย ถ้าคุณมีงานมั่นคง รายได้ต่อเดือนเพียงพอที่จะชำระค่างวดกับไฟแนนซ์ ถ้าคุณจะซื้อรถมือสองและจำเป็นต้องขอสินเชื่อจากไฟแนนซ์ พยายามกู้ให้ยอดน้อยที่สุดและใช้เวลาการผ่อนชำระให้สั้นที่สุดเท่าที่ตัวคุณจะผ่อนไหวในแต่ละงวด

หาข้อมูลประกอบเอาไว้ก่อนว่ารถคันที่คุณสนใจ รถมือสองดาวน์เท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เตรียมรับภาระตรงนี้ได้อย่างไม่ติดขัด อย่ามองเพียงว่า เห็นป้ายนี้แล้วอุ่นใจ มีรถง่าย ๆ ไม่ต้องมีเงินดาวน์ แถมผ่อนก็ถูก เตือนตัวเองเอาไว้ก่อน ว่านี้คือคำโฆษณา ที่จะจูงใจให้เราอยากซื้อรถมือสองมากขึ้นนั่นเอง

2.ค่าจัดไฟแนนซ์ มีด้วยหรือ?

คำตอบคือ มี หลายคนที่ซื้อรถมือสองด้วยการขอสินเชื่อไฟแนนซ์ มักจะไม่ทราบว่าทางไฟแนนซ์คิดค่าบริการในการจัดไฟแนนซ์ด้วย ผู้ขายมักจะไม่ยอมบอกคุณตั้งแต่แรกว่าซื้อรถต้องมีค่าจัดไฟแนนซ์ด้วยและอาจฉวยโอกาสที่คิดค่าบริการนี้แพงเกินเหมาะสม ผู้ซื้อหลายคนเจอค่าจัดไฟแนนซ์ที่เต็นท์คิดบวกเพิ่มกับราคารถอีกตั้งแต่ 6,000 ถึง หลักหมื่นบาทซึ่งความเป็นจริงแล้วค่าบริการจัดไฟแนนซ์คิดเพียงแค่ 2-3 พันก็เพียงพอ ยิ่งถ้าเป็นเต็นท์ไหนที่มีโปรโมชั่นทางเต็นท์ออกค่าจัดไฟแนนซ์ให้ฟรีอีกด้วยก็ยังมี

ระวังการเรียกเก็บค่าบริการเกินจริง
ระวังการเรียกเก็บค่าบริการเกินจริง

อย่าลืมสอบถามรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดไฟแนนซ์ในชัดเจนตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าผู้ขายบอกตัวเลขที่แพงเกินไปก็ขอลดลงสักหน่อย ถ้าไม่ลดให้เลยก็อย่าซื้อเพราะเต็นท์กำลังเอาเปรียบคุณอยู่ หรือไม่ก็ลองขอฟรีค่าจัดไปเลย บางเต็นท์ที่อยากขายรถคันนั้นจริงๆ อาจจะยอมให้กับคุณก็เป็นได้

3.คืนเงินจองได้

แม้คุณตัดสินใจที่จะซื้อรถมือสองคันนั้นๆ แล้ว ก่อนตกลงวางเงินจองรถ ก็ต้องคุยในชัดเจนกับผู้ขายก่อนว่าเงินจองนี้ขอคืนได้ไหม ในกรณีที่คุณเปลี่ยนใจไม่ซื้อรถหรือขอสินเชื่อแล้วรถจัดไฟแนนซ์ไม่ได้ จัดไฟแนนซ์ไม่ผ่าน บางเต็นท์ให้คืนเต็มจำนวนหรือคืนแค่บางส่วนแล้วแต่กรณีของผู้ซื้อ แต่ทางผู้ขายมักจะไม่บอกกับคุณตั้งแต่แรกคุณต้องเป็นคนถามเองว่าเงินจองนี้จะได้คืนหรือไม่ ไม่คืนในกรณีใดบ้างเป็นต้น

ดูเพิ่มเติม
>> ได้รถดี และถูกกว่า! กับ 6 เทคนิคต่อราคารถมือสอง
>> ตรวจสภาพรถมือสอง 5 จุดที่ชอบลืมเช็ก! เมื่อซื้อรถมือสอง

4.บังคับต้องทำประกัน

ถ้าคุณซื้อรถมือสองผ่านไฟแนนซ์รถยนต์ ทางไฟแนนซ์จะบังคับให้คุณทำประกันชั้นหนึ่งในปีแรก ทันทีที่ไฟแนนซ์อนุมัติการขอสินเชื่อ คุณจะต้องเตรียมเงินจำนวนหนึ่งไว้สำหรับจ่ายค่าประกันเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 12,000-20,000 บาท

ทำประกันรถ
เตรียมเงินค่าทำประกันรถเอาไว้ด้วย

หรือแล้วแต่รุ่นรถที่คุณซื้อว่าค่าประกันชั้นหนึ่งที่ไฟแนนซ์บังคับซื้ออยู่ที่ราคาเท่าไร ทางผู้ขายจะไม่บอกคุณตั้งแต่แรก และจะมาบอกคุณตอนที่รวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายในวันรับรถแทน ดังนั้นควรถามให้ชัดเจนว่าค่าประกันอยู่ที่ราคาเท่าไร คุณจะได้เตรียมงบประมาณไว้เผื่อจ่ายในส่วนนี้

5.รถเคยชนหนัก

สภาพรถที่เคยชนหนักจนถึงระดับตัวถัง อาจทำให้ศูนย์ของรถที่เคยเที่ยงตรงตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิตเสียไป ซ่อมยังไงก็ไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม ไม่ควรซื้อมาใช้เป็นอย่างยิ่ง และแน่นอนว่าผู้ขายก็ไม่อยากให้คุณรู้เรื่องนี้เช่นกัน ผู้ขายจะบอกแค่ว่าเคยทำสีตรงนี้ตรงนั้นมา เพราะถูกรถคันอื่นเบียดมาเล็กน้อยเท่านั้นก็ว่ากันไป

อย่างไรก็ตาม อย่าเชื่อทุกคำพูดจากผู้ขาย สิ่งที่คุณเห็นเท่านั้นที่จะบอกได้ว่ารถเคยชนหนักมาหรือไม่ มีรอยทำสี ซ่อมสี ที่บริเวณตัวถังตรงไหนหรือเปล่า ถ้าไม่มั่นใจให้พาช่างผู้เชี่ยวชาญไปช่วยคุณดูด้วยอีกแรงจะดีที่สุด

6.ไม่มีข้อมูลการซ่อมบำรุง

กรณีที่รถมือสองปีไม่เก่ามาก ข้อมูลการเข้ารับบริการจากศูนย์จะถูกบันทึกไว้ใน Book Service จะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลการซ่อมบำรุงของรถแต่ละคันได้หมด ว่ารถคันนี้เคยเสีย เคยซ่อมตรงไหนมาบ้าง แม้กระทั่งซ่อมจากการชน ถ้าผู้ขายไม่มี Book Service ให้คุณดูก็สามารถตีความหมายได้ต่าง ๆ นานา เช่น รถคันนี้ไม่ค่อยได้รับการดูแลจากเจ้าของเก่าสักเท่าไร หรือถ้ารถคันนั้นเป็นรถมือสองที่ปีเก่ามากแล้วนำไปซ่อมที่อู่นอกก็ควรจะมีบิลใบเสร็จค่าซ่อมหรือบำรุงรักษาตามจุดต่าง ๆ ให้คุณดูได้

ควรมีบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษารถ
ควรมีบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษารถ

ควรที่จะถามหา Book Service จากผู้ขายและดูรายละเอียดการเข้าซ่อมต่างๆ ถ้าผู้ขายไม่มีให้คุณดูก็ต้องอาศัยความสามารถในการดูสภาพรถจากตัวคุณเองแล้วก่อนตัดสินใจซื้อ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่คุณต้องคุยกับทางผู้ขายหรือเต็นท์รถให้ชัดเจน เมื่ออยากซื้อรถมือสอง ออกรถยนต์มือสอง รวมไปถึงเรื่องการดูสภาพตัวรถมือสองให้ดีก่อนซื้อ ก่อนตอบรับตกลงซื้อรถมือสองคันนั้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวและไม่เสียโอกาสในการที่จะได้รถมือสองคุณภาพดีมาใช้งาน

ดูเพิ่มเติม
>> ทำสัญญาซื้อขายรถ ติดไฟแนนซ์อย่างไร?

>> ทำไมดอกเบี้ยรถมือสอง แพงกว่ารถป้ายแดง?

เข้าดู ตลาดรถ ได้ที่นี่