MUJI เอาใหญ่ มาถึงอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 20 ธ.ค 2561
แชร์ 0

แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชาวไทยที่เน้นของแต่งบ้าน เครื่องใช้ที่มีไสตล์เป็นของตัวเองอย่าง MUJI เมื่อหันมาพัฒนาออกแบบรถยนต์ไร้คนขับจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

อุปสรรคอย่างหนึ่งของรถยนต์ไร้คนขับก็คือ หากสภาพอากาศย่ำแย่อาจทำให้สมรรถนะของการขับขี่แบบไร้คนขับนั้นแย่ลงหรืออาจจะแย่จนไม่อาจสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับว่าเป็นความท้ายทายอย่างยิ่งสำหรับผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับในปัจจุบัน การที่สภาพอากาศย่ำแย่จะไปบังทัศนวิสัยของกล้องที่ตรวจสอบเลนถนน หรือแม้แต่เรดาห์ที่ตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบคันรถ สภาพอากาศที่ย่ำแย่นี้แม้แต่มนุษย์เองเวลาขับยังทำให้เกิดอุบัติเหตุกันได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้าจะไร้คนขับในสภาพถนนแบบนี้คอมพิวเตอร์ที่ประมวลผล รวมไปถึงอุปกรณ์ตรวจสอบสภาพต่างๆโดยรอบต้องเข้าขั้นเทพอีกด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรปัจจุบันก็มีบริษัทที่สามารถออกแบบรถยนต์ไร้คนขับให้วิ่งได้ในทุกสภาพอากาศ และก็ไม่นึกว่าแบรนด์นี้จะสามารถทำได้หรือว่าจะถนัดการออกแบบรถยนต์ด้วย เพราะปกติเน้นไปทางอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านมากกว่า แบรนด์นั้นคือ MUJI

MUJI ที่ถนัดงานออกแบบและขายสินค้าเครื่องใช้ในบ้านกันจนเป็นที่รู้จัก

MUJI ที่ถนัดงานออกแบบและขายสินค้าเครื่องใช้ในบ้านกันจนเป็นที่รู้จัก

ตลาดรถต่างประเทศเมื่อ พูดถึงแบรนด์ MUJI หลายคนจะนึกถึงคำว่า Minimal ง่ายๆ น้อยๆ แต่ยังคงสวยงาม เข้ากับสิ่งรอบข้างได้ดี ของทุกอย่างดูโทนสีสบายตา ละเอียดละออ มีของขายมากมายหลายอย่างโดยมากมักเป็นของใช้ภายในบ้าน และตอนนี้ก็ไปถึงการทำธุรกิจโรงแรมแล้วด้วย และบริษัทก็ก่อตั้งมาเกือบ40ปีแล้ว ทุกวันนี้คนไทยเองก็รู้จักหน้าตาแบรนด์นี้กันมากขึ้นและก็สามารถเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้า

MUJI มีรายได้มาแค่ไหน

MUJI มีรายได้สำหรับปี 2017 ที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว รายได้ปี 2017 ปีเดียวก็ปาเข้าไปถึงกว่า 100,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรราว 9,000 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 236,000 ล้านบาท เห็นคอนเซ็ปท์ Minimal แบบนี้แต่ทำกำไรได้มหาศาลสวนทางกับแนวคิคจริงๆ ทั้งยังมีสาขากระจายไปทั่วโลกเกือบพันสาขา และแถบเอเชียก็มีสาขามากกว่าทวีปอื่นๆ

MUJI เห็นเรียบๆแบบนี้แต่กำไรมหาศาลในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น

MUJI เห็นเรียบๆแบบนี้แต่กำไรมหาศาลในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น

คอนเซ็ปท์ของ MUJI

แบรนด์ MUJI ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง Minimal เท่านั้น แต่เป็นการหลอมรวมสิ่งต่างๆที่เริ่มต้นจากความว่างเปล่า ความเรียบง่าย ไร้สีสันฉูดฉาด ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง และที่สำคัญที่สุดคือต้องมีคุณภาพ ทำให้นักออกแบบต้องใช้การวิจัยและความคิดอย่างมากก่อนจะออกแบบสินค้าแต่ละตัวออกมาได้ และปกติจะไม่เปิดเผยชื่อของนักออกแบบอีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้โฟกัสที่สินค้านั้นๆจริงๆไม่ใช่ลำเอียงว่าสินค้าดีเพราะว่านักออกแบบเป็นคนชื่อดัง

MUJI เน้นเรียบง่ายแต่เข้าได้กับสิ่งรอบข้าง

MUJI เน้นเรียบง่ายแต่เข้าได้กับสิ่งรอบข้าง

ดูเพิ่มเติม
>> 5 อันดับยานยนต์ไร้คนขับสุดล้ำในอนาคต!
>> ทำความเข้าใจ 5 ระดับ ของรถยนต์ “ไร้คนขับ”

รถยนต์ที่ออกแบบโดย MUJI

ด้วยแนวคิดของ MUJI ที่เน้นเรียบง่าย น้อยๆไว้ แต่ใช้ได้จริง หันมาออกแบบรถยนต์บ้าง จะเป็นรถยนต์แบบไหนก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย โดยล่าสุด MUJI ได้จับมือกับบริษัท Sensible 4 ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับของประเทศฟินแลนด์ ร่วมกับพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ชื่อว่า Gacha และฉีกทุกความท้าทายโดยเป็นรถยนต์ไร้คนขับที่สามารถวิ่งได้ในทุกสภาพอากาศ ยิ่งในประเทศฟินแลนด์ที่แค่พูดถึงก็นึกถึงภาพหิมะแล้ว ดังนั้นสภาพอากาศมักจะย่ำแย่มากกว่าสภาพถนนปกติ หากไม่สามารถวิ่งในสภาพอากาศแย่ๆอย่างในประเทศฟินแลนด์ได้รถคันนี้ก็แทบจะไม่ต่างจากรถยนต์ไร้คนขับคันอื่นๆ นับเป็นรถยนต์ไร้คนขับคันแรกของโลกที่มีประสิทธิภาพแบบนี้ Gacha คันนี้เป็นรถยนต์ไร้คนขับที่โดยสารได้ 10ที่นั่ง ยืนได้6คน มีลักษณะเป็นรถบัสรับส่งคนเป็นหลัก ด้วยความเป็น MUJI จึงออกแบบรถยนต์ให้ออกมาดูแล้ว มองไม่ออกเลยว่าด้านไหนคือด้านหน้าหรือด้านหลัง แต่ก็คงไม่เป็นไรเนื่องจากมันคือรถยนต์ไร้คนขับ และแน่นอนว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ขอให้มันนำพาคนทั้งหมดไปส่งถึงปลายทางได้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว คาดว่ารถยนต์คันนี้จะสามารถออกมาวิ่งได้จริงในช่วงปี 2020 และแน่นอนเริ่มวิ่งในประเทศฟินแลนด์ก่อนเป็นประเทศแรก

รถยนต์ของ MUJI ที่จะเป็นรถยนต์ไร้คนขับในทุกสภาพอากาศ

รถยนต์ของ MUJI ที่จะเป็นรถยนต์ไร้คนขับในทุกสภาพอากาศ

รถยนต์ของ MUJI ที่จะเป็นรถยนต์ไร้คนขับในทุกสภาพอากาศ

รถยนต์ของ MUJI ที่จะเป็นรถยนต์ไร้คนขับในทุกสภาพอากาศ

แม้จะยังไม่มีการเผยสเปคของตัวรถในด้านเครื่องยนต์ หรือมิติออกมาอย่างเป็นทางการ แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่ MUJI ตั้งใจจะทำให้ได้แน่ๆคือมันจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับที่เน้นใช้งานได้จริงในทุกสภาพอากาศ การออกมาประกาศแบบนี้ก่อนทำให้ยากที่จะเดินถอยหลังกับโปรเจคนี้ได้ มีแต่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น ก็อาจจะเป็นแนวความคิดหนึ่งของ MUJI ที่ต้องการสร้างขวัญกำลังใจและความท้ายทายให้กับพนันกงานทุกคนในบริษัท

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ MUJI ในเรื่องรถยนต์

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเม.ย.ปี2001 MUJIเองก็เคยออกแบบรถยนต์มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนั้นต้องการทดสอบระบบการขายสินค้าออนไลน์ ถึงกับร่วมพัฒนารถยนต์กับ ค่ายNissan ให้มีสินค้ามาขายในระบบออนไลน์ของบริษัทในตอนนั้น มันถูกเรียกว่า MUJI Car 1000 มีจำนวนจำกัดเพียง 1000 คันเท่านั้น ขายเฉพาะช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว และก็ไม่มีตรา Logo ที่กระจังหน้าตามไสตล์ No Logo ของ MUJI อีกเช่นเคย

>>> ดูเพิ่มเติม ราคารถตู้มือสอง

รถยนต์ MUJI Car 1000 ที่เคยร่วมมือกับNissan มาก่อนในปี2001

รถยนต์ MUJI Car 1000 ที่เคยร่วมมือกับNissan มาก่อนในปี2001

มาถึงยุค 2018-2019 กันแล้ว การทำตลาดอย่างมีไสตล์เป็นของตัวเองยังคงใช้ได้ดีไม่เสื่อมคลาย รวมถึงแบรนด์ MUJI ที่เน้นการสร้างแบรนด์แบบ Minimal เข้ากับทุกสิ่งรอบข้างได้ดี และก็ทำให้บริษัทนั้นเข้ากับอุตสาหกรรมอื่นๆได้ดีเช่นกัน เพราะคอนเซ็ปท์ของเขาคือการออกแบบ การออกแบบนี้เองที่มีอยู่ในสินค้าทุกประเภท รวมถึงรถยนต์ด้วย นอกจากนั้นยังไม่ใช่แค่เอารถยนต์มาออกแบบให้ดูดี ไม่มีโลโก้เท่านั้น แต่เป็นการออกแบบรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอกผนวกรวมกับเทคโนโลยีสุดล้ำคือรถยนต์ไร้คนขับที่สามารถลุยได้ทุกสภาพอากาศอีกด้วย นับว่าเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างจริงๆ

ดูเพิ่มเติม
>> 
5 นวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถไร้คนขับในอนาคตอันใกล้นี้!
>> Ford จับมือ Baidu ลุยทดสอบรถไร้คนขับระดับ 4

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้