Mazda 2 Minorchange 2019 เปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ในญี่ปุ่น เตรียมขายไทยปีหน้า

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 20 ก.ค 2562
แชร์ 5

Mazda 2 เปิดตัวรุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น มีการเปลี่ยนแปลงภายนอกครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี มาดูสเปคว่ามีการเปลี่ยนรายละเอียดอะไรไปบ้าง

Mazda 2 รถเก๋งรุ่นขายดีที่สุดในไทย ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 และล่าสุดในปี 2019 นี้ ได้เปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่แบบ Minorchange ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีอย่างเป็นทางการ เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นก่อนใคร โดยเปลี่ยนชื่อจาก Demio เดิมในตลาดรถญี่ปุ่น กลายเป็นรุ่นเลข 2 แบบเดียวกับที่ขายทั่วโลก โดยข้อมูลจากเว็บของมาสด้าในญี่ปุ่นนี้ ทำให้เราทราบถึงรายละเอียดข้อมูลของมาสด้า 2 รุ่นปี 2019 ใหม่ จะมีอะไรเปลี่ยนไปน่าใช้แค่ไหน มาดูกันเลย


Mazda 2 Minorchange ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี

Mazda 2 Minorchange ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี

มิติตัวถังต่างจากเดิม

แม้ว่ารูปทรงหลักจะยังคงเหมือนเดิมตามสไตล์รถไมเนอร์เชนจ์ แต่ว่าในรายละเอียดการเปลี่ยนแต่ละชิ้นส่วน ทำให้ Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีความยาวและความสูงเพิ่มขึ้นอย่างละ 5 มม. ส่วนน้ำหนักตัวรถสูงสุดและระยะฐานล้อ ยังคงเท่าเดิม

กระจังหน้าใหม่

กระจังหน้าทรง 5 เหลี่ยม ที่เปลี่ยนกรอบใหม่หมด ตามแนวทางการออกแบบ Kodo Design ยุคใหม่ ที่มีใช้ในมาสด้าปัจจุบันอย่างเช่น CX-5 ให้มีเส้นโครเมียมคาดขอบล่างแล้วหยักขึ้น ต่อเนื่องไปตามขอบล่างของไฟหน้า ทำให้รถดูยาวและกว้าง ตามด้วยการเปลี่ยนลายกระจังหน้าใหม่ ที่จากเดิมเป็นเส้นขวางแนวนอน กลายเป็นลายตาข่ายตาถี่ พร้อมโลโก้ตำแหน่งที่ติดขอบบนกระจัง ทั้งหมดช่วยเพิ่มให้กระจังมีความสปอร์ตกว่าเดิมมาก

กระจังหน้าใหม่ เป็นจุดเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด
กระจังหน้าใหม่ เป็นจุดเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด

ไฟหน้าใหม่

ไฟหน้าทรงใหม่ เป็นแบบ LED เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูปลายแหลม กลายเป็นแบบทรงเม็ดข้าวรีเรียวยาว รับกับเส้นคิ้วกระจังหน้าที่ลากยาวต่อเนื่องกัน โดยไม่มีการเปลี่ยนเส้นขอบบน ทำให้ฝากระโปรงไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นใหม่ ส่วนปลายแหลมของไฟ และขอบล่าง มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ทำให้ต้องเปลี่ยนชิ้นซุ้มล้อ และกันชนหน้าใหม่ทั้งหมดด้วย

ด้านหน้าคือความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดของ Mazda 2 รุ่นปี 2019 ไมเนอร์เชนจ์
ด้านหน้าคือความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดของ Mazda 2 รุ่นปี 2019 ไมเนอร์เชนจ์

กันชนหน้าใหม่

กันชนหน้าก็ถูกเปลี่ยนรูปทรงใหม่ ให้สอดรับกับขอบไฟหน้า และทำดีไซน์เป็นแนวทาง Kodo ยุคที่ 2 ด้วยการออกแบบช่องดักลมล่างที่แคบลงกว่าเดิม ออปชั่นไฟตัดหมอกเดิมถูกถอดออกไป กลายเป็นเส้นโครเมียมแนวนอนเรียวยาวต่อเนื่องจากช่องดักลม พร้อมเล่นสันนูนเล็กน้อยที่มุมกันชนให้ดูมีมิติ ซึ่งเป็นสไตล์เดียวกับรถเก๋งรุ่นพี่ทั้งหมด

ดูเพิ่มเติม

>> Mazda 6 เจาะตลาดรถฟิลิปปินส์ ค่าตัวน่าสน 1.19 ล.

>> Honda e เผยสเปครถเล็ก ขับเคลื่อนหลังพลังไฟฟ้า 150 แรงม้า พร้อมขายปีหน้า

ล้อแม็กซ์ลายใหม่

Mazda 2 รุ่นปี 2019 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีการเปลี่ยนลายล้อแม็กซ์ด้วย จากเดิมที่เป็นลาย 5 ก้านคู่ ทำสีปัดเงาทูโทน กลายเป็นลายใหม่แบบ 8 ก้านคู่ ลายซี่เล็กบาง ที่เป็นสีเงินทั้งหมด ขนาดล้อ 16 นิ้ว คู่กับยางขนาด 185/60 เช่นเดิม ส่วนในรุ่นย่อยอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวท็อป ก็ยังใช้ล้อแม็กซ์ขนาด 15 นิ้วลาย 5 ก้านคู่เหมือนเดิม

 

ล้อแม็กซ์ลายใหม่แบบ 8 ก้านคู่
ล้อแม็กซ์ลายใหม่แบบ 8 ก้านคู่

ด้านท้ายเปลี่ยนรายละเอียดใหม่

ที่ด้านท้ายมีจุดแตกต่างจากเดิมตรงที่ ไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ปรับรายละเอียดภายในโคมใหม่ ตามด้วยการปรับปรุงชายล่างกันชนหลังใหม่ ที่เสริมด้วยเส้นโครเมียม ซึ่งออปชั่นเส้นโครเมียมนี้ จะมีอยู่ในรุ่นสูง ๆ S Package และ L Package เท่านั้น ส่วนรุ่นล่างลงไป จะเป็นชิ้นพลาสติกสีดำด้าน

รุ่นล่าง ๆ จะได้ออปชั่นตามภาพนี้
รุ่นล่าง ๆ จะได้ออปชั่นตามภาพนี้

ภายในตกแต่งใหม่

ภายในของ Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ ไม่มีการเปลี่ยนรูปทรงหลัก แต่เปลี่ยนสีภายในใหม่แบบทูโทน เพิ่มสีน้ำเงิน-ดำ และสีน้ำตาล-ดำ พร้อมใช้วัสดุเบาะหนังสลับหนังกลับ เล่นสีทูโทนเช่นกัน พร้อมกับเปลี่ยนทรงเบาะใหม่ ให้นั่งกระชับกว่าเดิม แถมเพิ่มฟังก์ชั่นการปรับระดับด้วยไฟฟ้า 6 ระดับ กับหน่วยความจำตำแหน่งที่นั่งด้วย ทางด้านกระจกมองหลังมีระบบตัดแสงอัตโนมัติเพิ่มมาให้ ตบท้ายด้วยการปรับปรุงวัสดุบุซับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารให้ดีขึ้นจากเดิม

เบาะและแผงประตูภายใน เป็นสีทูโทนใหม่

เบาะและแผงประตูภายใน เป็นสีทูโทนใหม่

เครื่องยนต์กำลังแรงขึ้น

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ ในสเปคญี่ปุ่น ได้เครื่องยนต์กำลังแรงกว่าในประเทศไทย ด้วยบล็อกเบนซิน SKYACTIV-G แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 110 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ส่วนบล็อกดีเซล SKYACTIV-D แบบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ติดเทอร์โบเทอร์โบ กำลังสูงสุด 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร และไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ใด ก็มีออปชั่นทั้งเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่เลือกได้ระหว่างขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

สเปคญี่ปุ่น มีกำลังแรงกว่าในไทย
สเปคญี่ปุ่น มีกำลังแรงกว่าในไทย

ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม

ระบบความปลอดภัยมีการเพิ่มระบบครูสคอนโทรลแบบแปรผัน Mazda Radar Cruise Control (MRCC) โดยในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ มีฟังก์ชั่นหยุดและออกตัวอัตโนมัติ (Stop & Go) นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keep Assist System (LAS) ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ (Advance SCBS) ระบบเตือนมุมอับต่าง ๆ กล้องมองภาพรอบทิศทาง ให้ไฟหน้า LED แบบปรับระดับได้ (ALH) และถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน

ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ (Advance SCBS)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ (Advance SCBS)

>> บางทีคุณอาจสนใจ mazda 2 ราคา

Mazda 2 รุ่นปี 2019 ไมเนอร์เชนจ์ นี่เป็นสเปคจากญี่ปุ่นเท่านั้น เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ยืนยันหน้าตาจริงว่าจะมาแน่นอน ส่วนเมื่อไหร่จะขายในประเทศไทย ก็ประมาณได้ว่าเป็นช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป เพราะในปีนี้ บ้านเราต้องเตรียมต้อนรับการมาของ All-new Mazda 3 โมเดลเชนจ์ใหม่ ถ้าหากมีความเคลื่อนไหวใด ๆ จะรีบนำมาแจ้งให้สาวกรถมาสด้าป้ายแดงให้ทราบทันที อย่าลืมติดตามกันต่อในตลาดรถมือสอง Chobrod กันในตอนต่อไป สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติม

>> Ford มือสอง รุ่นไหนดี รวมให้ดูทุกรุ่น ในงบไม่เกิน 5 แสนบาท

>> งบ 8 แสนบาท กับตลาดรถ Hybrid เมืองไทย !!

​ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

Mr.Argus