"เนเธอแลนด์”เบอร์หนี่งของโลก พร้อมที่สุดกับ “รถยนต์ไร้คนขับ”

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 9 มี.ค 2562
แชร์ 0

ผลสำรวจเเผยเนเธอแลนด์พร้อมที่สุดสำหรับการวางรากฐานรถยนต์ไร้คนขับ ตามติดมาด้วยสิงคโปร์ ด้านไทยมีศักยภาพพอจะทำได้ แต่ต้องเปลี่ยนจากฐานผู้ผลิตเป็นฐานการควบคุมยานยนต์

ข่าวรถยนจต์น่าสนใจในตลาดรถวันนี้ก็คือเรื่องของกลุ่ม เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทสำรวจความคิดเห็นระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจความพร้อมของการใช้ “รถยนต์ไร้คนขับ” หรือ “2019 Autonomous Vehicles Readiness Index (AVRI )” ประจำปี 2562 เพื่อหาคำตอบว่า มีประเทศใดที่มีความพร้อมที่สุดสำหรับเทคโนโลยียานยนต์แบบไร้คนขับมากที่สุด

บทสรุปคือทำให้เห็นว่า “เนเธอแลนด์” คว้าอันดับหนึ่งในฐานะประเทศที่มีความพร้อมสำหรับรถยนต์ไร้คนขับมากที่สุด และยังเป็นการตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งในการจัดการด้วยปีที่สองติดต่อกัน แต่ประเทศที่มีความพร้อมต่อมาจากเนเธอแลนด์ น่าสนใจว่าเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ๆ เราในระยะแค่ 3 พันกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง นั่นคือ สิงคโปร์ ส่วนประเทศอื่นๆที่มีความพร้อมลำดับรองลงมา ได้แก่ นอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา และสวีเดน

กลุ่ม เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทสำรวจความคิดเห็นระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจความพร้อมของการใช้ “รถยนต์ไร้คนขับ” หรือ “2019 Autonomous Vehicles Readiness Index (AVRI )” ประจำปี 2562 เพื่อหาคำตอบว่า มีประเทศใดที่มีความพร้อมที่สุดสำหรับเทคโนโลยียานยนต์แบบไร้คนขับมากที่สุด  บทสรุปคือทำให้เห็นว่า “เนเธอแลนด์” คว้าอันดับหนึ่งในฐานะประเทศที่มีความพร้อมสำหรับรถยนต์ไร้คนขับมากที่สุด และยังเป็นการตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งในการจัดการด้วยปีที่สองติดต่อกัน แต่ประเทศที่มีความพร้อมต่อมาจากเนเธอแลนด์ น่าสนใจว่าเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ๆ เราในระยะแค่ 3 พันกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง นั่นคือ สิงคโปร์ ส่วนประเทศอื่นๆที่มีความพร้อมลำดับรองลงมา ได้แก่ นอร์เวย์, สหรัฐอเมริกา และสวีเดน

รถยนต์ไร้คนขับ อนาคตที่่กำลังจะเกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการเตรียมพร้อม ขณะที่รัฐบาลแต่ละประเทศมุ่งสนับสนุนในการพัฒนาระบบขนส่งให้ทันสมัย และสร้างความมั่นใจว่านวัตกรรมดังกล่าวจะสร้างประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง

เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล สรุปปัจจัยในการจัดอันดับของประเทศที่มีความพร้อมใช้รถยนต์ไร้คนขับ มีรายละเอียดดังนี้

เนเธอร์แลนด์ เป็นแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เนื่องจากกำลังร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านนำเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมาใช้ในการขนส่งสินค้า และมีแผนการนำรถบรรทุกไร้คนขับกว่า 100 คัน มาใช้ในการขนส่งระหว่างเส้นทางหลัก

ดูเพิ่มเติม
>> 
แอพฯ "M-Help Me" ไม้เด็ดปราบรถติดเมืองกรุง
>> ตามไปดู เทคโนโลยีที่น่าจะเป็นจริงได้ในปี2019, 2020

ถัดมาคือสิงคโปร์ ที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสร้างเมืองจำลองสำหรับทดลองใช้รถยนต์ไร้คนขับ โดยสร้างไฟจราจร ป้ายรถเมล์ ตึกสูง และเครื่องทำฝนเทียม เพื่อสร้างสภาพอากาศที่สะท้อนถึงภูมิอากาศของประเทศเขตร้อนชื้น

ส่วนประเทศที่ติดอันดับ 5 ประเทศ จากการสำรวจในครั้งนี้ ได้แก่ นอร์เวย์ (อันดับ3) ด้วยการอนุญาตให้มีการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนถนนสาธารณะ โดยเริ่มให้บริการรถประจำทางไร้คนขับในวงแคม และมีแผนทดลองใช้แท็กซี่ไร้คนขับในปีนี้

แต่ประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุดสำรับรถยนต์ไร้คนขับคือ

แต่ประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุดสำรับรถยนต์ไร้คนขับคือ "เนเธอแลนด์" 

ฟินแลนด์ (อันดับ 6) มุ่งพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้สามารถใช้ได้ในสภาพอากาศหนาวเย็น และพัฒนาระบบอัตโนมัติสำหรับรถประจำทาง นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนสีเส้นบนท้องถนนจากเหลืองเป็นขาว เพื่อให้เหมาะกับการใช้รถยนต์ไร้คนขับมากขึ้น

อิสราเอล (อันดับ 14) จุดแข็ง คือ ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศที่เน้นการส่งออก ช่วยให้มีคะแนนนำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม นอกจากนี้ ยังมีการวางมาตรการพิเศษสำหรับการร่วมมือทางธุรกิจ การลงทุน และการก่อตั้งสำนักงานใหญ่

สาธารณรัฐเช็ก (อันดับ 19) ได้จัดตั้งสถานที่ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ที่มีแนวโน้มจะช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของภูมิภาค

ฮังการี (อันดับ 21) ได้ปรับเปลี่ยนกฎหมายการทดสอบใช้รถยนต์ไร้คนขับในเชิงพาณิชย์ที่สนามทดสอบแห่งใหม่ และวงการสตาร์ทอัพที่ตื่นตัวในด้านนี้ ช่วยให้ประเทศนี้ติดอันดับ

สำหรับการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคพบว่า ประเทศที่พร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับในระดับรองๆ ลงมาให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวมากที่สุด ได้แก่ อินเดีย (อันดับ 24) และเม็กซิโก (อันดับ 23)

ทั่วโลกกำลังสนใจอย่างมากกับเทคโนโลยีไร้คนขับ

ทั่วโลกกำลังสนใจอย่างมากกับเทคโนโลยีไร้คนขับ

ริชาร์ด เธรลฟอลล์ ประธาน ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สุดท้ายผู้บริโภคจะเป็นแรงผลักดันการใช้รถยนต์ไร้คนขับ หากผู้บริโภคยังไม่เปิดรับในวงกว้าง ก็ยากที่จะทำให้ตลาดรถดังกล่าวพัฒนาและสร้างประโยชน์ได้ โดยผู้บริโภคในประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า มีความสนใจเปิดรับรถยนต์ไร้คนขับมากกว่า ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่แบบก้าวกระโดด ขณะที่ผู้บริโภคในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนา กลับมีความสนใจในการใช้รถยนต์ไร้คนขับน้อยกว่า ส่งผลทำให้เกิดการชะลอตัวในการนำรถยนต์ไร้คนขับมาใช้งาน

ด้าน ธิดารัตน์ ฉิมหลวง ประธานฝ่ายดูแลลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม เคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในยุคปฏิวัติการคมนาคมขนส่ง เทคโนโลยีกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ และนวัตกรรมกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เพื่อให้ไทยพร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับ จำเป็นต้องมีการพิจารณาและปรับกฎหมายให้รองรับ มีการวางผังเมือง และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับ

สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีตลาดรองรับ ในฐานะไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตรถยนต์ของโลก เราเล็งเห็นว่า เป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการที่จะขยายศักยภาพจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ สู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาซอฟต์แวร์ในการควบคุมยานยนต์ อันจะคงไว้ซึ่งการเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

สำหรับประเทศไทยกับเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

สำหรับประเทศไทยกับเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

ภาพที่เราเคยเห็นเพียงแต่ในภาพยนตร์ ว่าโลกแห่งอนาคตรถยนต์สามารถควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มีความปลอดภัย แขน เท้า สมองของมนุษย์ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายในการควบคุม ภาพนั้นกำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้วในไม่ช้า น่าสนใจทีเดียวว่าเทคโนโลยีของโลกเรา มันช่างรุดหน้าไปเร็วเสียจริงๆ

ดูเพิ่มเติม
>> 
เผยโฉมรถยนต์คอนเซ็ปต์ใหม่ที่งาน Geneva International Motor Show 2019 !!
>> รวมสรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์ที่ 4 ก.พ. – 9 ก.พ. 2019
 

*หากสนใจการซื้อขายรถมือสองราคางามๆ กดดูที่นี่ได้นะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่

กอล์ฟ กันติพิชญ์