7 เหตุผลความสำเร็จของค่ายรถไฟฟ้า Tesla

ประสบการณ์ใช้รถ | 23 ก.พ 2561
แชร์ 8

​Tesla ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการผลิตมาได้เพียงไม่นาน แต่ตำนานแห่ง Silicon Valley, อย่าง Peter Thiel กลับเชื่อว่า ความลับของความประสบความสำเร็จในตัวรถจาก Tesla นั้น มาจากหลายๆ ปัจจัย ส่วนหนึ่งนั้นมาจากตัวผู้ร่วมก่อตั้ง และอีกส่วนก็มาจากเรื่องดวงเล็กๆ ด้วยเช่นกัน

7 เหตุผลความสำเร็จของค่ายรถไฟฟ้า Tesla
7 เหตุผลความสำเร็จของค่ายรถไฟฟ้า Tesla  

Thiel หนึ่งในทีมผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal พร้อมกับ CEO ของ Tesla อย่าง Elon Musk ได้ตีพิมพ์เนื้อหาภายในหนังสือที่มีชื่อว่า “Zero To One” ซึ่งได้อธิบายสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมา รวมไปถึงให้คำแนะนำแก่ Start Up ผู้ประกอบการหน้าใหม่อันเกี่ยวข้องถึงเรื่องของการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต Elon Musk ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ รายใหญ่ที่สุด ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ 3 แบบ 3 สไตล์ภายใต้การเชื่อมโยงอันเกี่ยวเนื่องด้วยวิถีแห่งอนาคต

ข้อสังเกตหนึ่งของ Thiel ที่ได้ให้ไว้เกี่ยวกับในตัวของค่ายรถ Tesla นั่นคือ Tesla กล้าที่จะทำสิ่งที่แตกต่างมากมาย ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ไม่ได้ทำ หรือไม่กล้า ภายในข้อจำกัดโดยใช้การเอื้อของปัจจัยด้านสถานที่ และช่วงจังหวะที่เหมาะสม ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งความสามารถของ Tesla ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทอีกด้วย

Peter Thiel และ Elon Musk สมัยก่อตั้ง PayPal

Peter Thiel และ Elon Musk สมัยก่อตั้ง PayPal

และนี่คือเหตุผล 7 ประการที่ Thiel ให้ไว้ ผ่านคำพูดที่ถูกถ่ายทอดด้วยตัวหนังสือ เน้นย้ำด้วยตัวเอียงสีเข้ม บอกว่าอะไรคือปักเจกเหตุของความสำเร็จในรถค่าย Tesla มีอะไรบ้าง Chobrod ขออาสาพาไปดู

1.เทคโนโลยีสุดล้ำ

ความล้ำสมัยขั้นสุดจาก Tesla เป็นสิ่งที่ดีมาก เมื่อถูกนำมาใช้กับมนุษยชาติ และยังเป็นที่พึ่งพาของค่ายรถยักษ์ใหญ่ชั้นนำ กับคำพูดมากมายที่ว่า เดมเลอร์ใช้แบตเตอรี่ของ Tesla, เบนซ์ใช้ระบบขับเคลื่อนของ Tesla, ​โตโยต้าใช้มอเตอร์จาก Tesla! Tesla! Tesla! Tesla! จนกลายเป็นผู้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดขนาดค่ายรถชั้นนำของโลกยังต้องทำตาม

Tesla Model S คือหนึ่งนวัตกรรมที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ผ่านการยอมรับด้วยรางวัลมากมาย รวมทั้งจากนิตยสาร Consumer Reports, นิตยสาร Motor Trend และนิตยสารรถยนต์ชั้นนำทั้วโลก ข้อตกลงกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชั้นนำในการผลิตอะไหล่ส่วนต่างๆ ของตัวรถได้พิสูนจ์แล้วว่าทำกำไรให้ได้จริง และเป็นสิ่งที่ Elon Musk วางแผนดำเนินการไว้แล้วในอนาคต

2. ช่วงจังหวะที่ลงตัว

ปี 2010 Tesla ได้รับเงินอุดหนุนธุรกิจด้วยเงินกู้ 465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากกระทรวพลังงานของสหรัฐฯ เงินกว่าครึ่งพันล้านเหรียญซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขอได้ในวันนี้ และ Tesla ก็ฉวยโอกาสจากเงินที่ได้รับในช่วงนั้น ปั้นตัวเองจนออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนทุกวันนี้

Tesla มาได้ถูกจังหวะพอดีกับที่ประธานาธิบดีโอบาม่า (ในช่วงเวลานั้น) ให้ความสำคัญกับการริเริ่มโครงการใหม่ๆ ผ่านเงินกู้จำนวนมหาศาล และบริษัทก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการคืนเงินกู้ให้เต็มจำนวนในเวลาแค่ไม่นาน  

จังหวะที่ลงตัวจากเงินสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วยทำให้ Tesla เติบโตแบบก้าวกระโดด

จังหวะที่ลงตัวจากเงินสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ช่วยทำให้ Tesla เติบโตแบบก้าวกระโดด

3. แสดงจุดเด่นจากระดับสูงสุด

เริ่มจากทำตลาดเล็กย่อย จำนวนกำลังซื้ออาจจะน้อยกว่า ที่ต่อมาสามารถคลรองตลาดได้ในวงกว้าง โดยใช้การสร้างรถสปอร์ตระดับ High-End เป็นจุดเริ่มต้น

Tesla เริ่มต้นสร้างรถคันแรกกับรุ่น Tesla Roadster เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถไฟฟ้าที่สามารถทำความเร็วออกมาได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปผายใน เผาไหม้ มลพิษสูง ให้โลกได้รับรู้ว่าการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคือเจนเนอเรชั่นต่อไปของยานพาหนะบนโลกนี้ แม้ยอดจำหน่ายของรุ่นแรกจะเทียบไม่ได้กับ Ford F-150 เมื่อพูดถึงเรื่องของปริมาณ แต่รถรุ่นนี้ก็สร้างรายได้ไม่น้อยให้กับ Tesla และเพื่อก้าวต่อไป Tesla ก็มุ่งมั่นพัฒนา Model S ต่อเนื่องส่งเข้าสู่ตลาดเพื่ออีกระดับมาตรฐานของเทคโนโลยี ที่รูปแบบการใช้งานตัวรถหลากหลายยิ่งกว่า มีตลาดผู้ซื้อที่กว้างขึ้น โดย Elon Musk เชื่อว่ารถรุ่นนี้คือนิยามของรถตลาดที่ติดโลโก้ Tesla อย่างแท้จริง

Tesla Roadster รุ่นแรกที่ผลิตจากตัวถังของ Lotus แต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด

Tesla Roadster รุ่นแรกที่ผลิตจากตัวถังของ Lotus แต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด

4.ทีมที่แข็งแกร่ง

Tesla มีทีมวิศวกรที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงทีมขาย ทีมการตลาดชั้นเซียน ดังนั้นจึงไม่จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าเมื่อทั้งสองส่วนได้ร่วมทีมกันแล้ว จะกลายเป็น Avenger ของตลาดรถยนต์โลกได้ไม่ยากเย็นนัก

Thiel บอกว่า “Elon Musk ได้พูดถึงทีมงานของ Tesla เทียบได้กับหน่วยรบพิเศษ Special Forces เลยทีเดียว” ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ “TheStreet” รวมไปถึง Gilbert Passin รองประธานฝ่ายการผลิต OEM และ Re-Manufacturing ของ Tesla ยังกล่าวด้วยว่า Elon Musk คือผู้สร้างแรงจูงใจให้กับทีมได้อย่างดีเยี่ยม "Elon เป็นคนสร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากๆ และเขาจะเป็นคนที่ดึงขีดความสามารถที่ดีที่สุดของคุณออกมาได้" Passin กล่าว “เขาจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่ดีที่สุดในสิ่งที่คุณกำลังพยายาม ทั้งในด้านการผลิต, ดีไซน์, Performance หรือความสามารถในการชาร์จไฟของตัวรถ มันช่างน่าประทับใจจริงๆ ที่ได้ร่วมทำงานกับคนแบบนี้ คนที่จะไม่ยอมไปไหน ถ้าไม่ได้ผลตามที่เขาต้องการ"

5. ขายด้วยตัวเอง

ตัวแทนจำหน่ายจะไม่เห็นคุณค่าของสินค่าเท่ากับผู้สร้างสินค้านั้นขึ้นมา ซึ่ง Tesla แตกต่าง และจริงจังกับการเลือกใช้วิธีที่จะเป็นเจ้าของเครือข่ายการจัดจำหน่ายเองไว้ทั้งหมด

ว่าด้วยเรื่องศูนย์บริการของ Tesla ซึ่งทางค่ายก็มีบางครั้งที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้เปิดในบางรัฐ ไม่ว่าจะเป็นที่ New Jersey, New York และ Ohio ซึ่ง Thiel กล่าวว่า ด้วยเรื่องต้นทุนที่ Tesla อาจจะมีสูงกว่าค่ายรถอื่นๆ จากรูปแบบธุรกิจใหม่ ที่ไม่ต้องการพึ่งพาตัวแทนจำหน่าย แต่กลับขายรถที่ผลิตมาด้วยตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ดีๆ ที่ลูกค้าจะได้รับซึ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ Tesla ยิ่งขึ้น และในระยะยาวก็ยังช่วยประหยัดงบประมาณให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก

Tesla ผลิตรถเอง วางแผนขายเอง เปิดโชว์รูมเอง ไม่มีตัวแทน

Tesla ผลิตรถเอง วางแผนขายเอง เปิดโชว์รูมเอง ไม่มีตัวแทน

นอกจากนี้ Tesla ยังมีแผนเพิ่มการผลิตให้มากกว่า ด้วยการขยายกำลังการผลิตที่โรงงาน “Gigafactory” ซึ่งจะช่วยให้ทางค่ายสามารถผลิตรถยนต์ได้จำนวนมากขึ้น ส่งถึงมือคนจองได้เร็วกว่ากำหนด ที่ช่วงแรกๆ ของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ลูกค้าบางคนต้องรอรถกันเป็นปีเลยทีเดียว

6. ความแข็งแรงในแบรนด์

Tesla เริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น และเคลื่อนไหวในเรื่องต่างๆ ได้เร็วกว่า การผสมผสานของข้อดีทั้งสอง นั่นหมายความว่าจะมีการขยายตัวที่มากขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า จนถึงจุดที่ Tesla กลายเป็นแบรนด์ที่หลายคนถวิลหา และนั่นแหละคือเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดที่ Tesla ตั้งเป้าไว้

Tesla หวังครองตลาดรถยนต์ด้วยแรงพายุแห่งการดึงดูดผู้บริโภคผ่านสื่อ และการยอมรับของนักลงทุน จากนั้นก็ให้ทุกอย่างมันทำงานไปตามกลไก Tesla เติบโตอย่างรวดเร็วถึงขั้นที่ General Motors (GM) ต้องตั้งทีมเพื่อคอยดูท่าทีของ Tesla ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร พัฒนาอะไรอยู่ แม้จะมีข่าวไม่ค่อยดีในด้านลบบ้าง ถึงปัญหาการใช้งาน หรือรถเกิดเพลิงไหม้อุบัติเหตุแต่ Tesla ก็ได้รับการปกป้องด้วยการรับรองคุณภาพความปลอดภัยของตัวรถจาก National Highway Safety Administration (NHTSA)

7.ใช้กระแสรักษ์โลกให้เป็นประโยชน์  

Tesla เข้าใจถึงแฟชั่นความรักษ์โลกที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้รถ และใช้มันขับเคลื่อนสร้างค่านิยมในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่มีในตัวรถของ Tesla คนมีสตังค์หน่อยต้องการสื่อถึงเทคโนโลยีสีเขียวด้วยการขับรถไฮบริดรุ่นต่างๆ เช่น Toyota Prius หรือ Honda Insight อย่างที่ดาราฮอลลีวู๊ดหลายๆ คนนิยมทำ ดังนั้น Tesla จึงตัดสินใจนำจุดนี้เป็นจุดขาย สร้างรถยนต์ที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความเท่ Smart เหนือระดับกว่าแค่การขับรถมีเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป ยังใช้ระบบขับเคลื่อนที่ยังต้องพึ่งพาน้ำมัน และปล่อยมลภาวะทำลายโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ข่าวของ Leonardo Di Caprio หนึ่งในนักแสดงชื่อดังที่ตื่นตัวเกี่ยวกับวิกฤตการณ์โลกร้อนถึงกับยอมทิ้ง Prius คันโปรดของเขาเพื่อมาซื้อรถที่แพงกว่าอย่าง Tesla Roadster ด้วยเช่นกัน แล้วแบบนี้จะไม่ให้เป็นกระแสให้คนทำตามได้อย่างไร

Leonardo Di Caprio และ Elon Musk กับการเข้าเยี่ยมชมโรงงาน Tesla

Leonardo Di Caprio และ Elon Musk กับการเข้าเยี่ยมชมโรงงาน Tesla

Tesla Model S เป็นรถรุ่นหนึ่งที่น่าทึ่งอย่างมาก และเป็นที่จับจ้องสนใจทุกครั้งเมื่อวิ่งอยู่บนถนนหรือแม้แต่จอดนิ่งอยู่ที่ลาน การมอบความเหนือระดับที่มากกว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ Tesla ให้ความสำคัญ ผ่านอุปกรณ์ล้ำสมัยภายในรถที่ Tesla จดสิทธิบัตรเอาไว้ ไม่มีใครทำเลียนแบบได้ แม้จะมีความพยายามเลียนแบบแต่ผลที่ออกมาก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ทั้งหมดนี้คือความลับแห่งความสำเร็จของแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ คงปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าตอนนี้คือยุคแห่งการรักษาสมดุลทางอากาศ เวลาของรถยนต์ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันกำลังจะหมดลง มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่จะเข้ามาแทนที่ และด้วยเหตุด้านบนทั้ง 7 ข้อสมทบ ยิ่งทำให้รถไฟฟ้า Tesla คือหนึ่งเจ้าค่ายรถยนต์ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ในไม่ช้านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

ดูเพิ่มเติม