Five Fact : 5 ขั้นตอนขอสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสอง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 4 ม.ค 2562
แชร์ 0

ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาซื้อรถมือสองสักคัน ทางเลือกในการจ่ายซื้อไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องซื้อโดยใช้เงินสดแค่เพียงอย่างเดียว และอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของรถมือสองได้ง่ายขึ้นนั่นก็คือ การขอสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสอง

Five Fact : 5 ขั้นตอนขอสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสอง

Five Fact : 5 ขั้นตอนขอสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสอง

Chobrod Five Fact สัปดาห์นี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับขั้นตอนหลัก ๆ ในการขอสินเชื่อรถมือสอง ว่าถ้าจะขอสินเชื่อซื้อรถมือสองสักคันนึงเนี่ย มันต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง ไม่ว่ารถมือสองคันที่คุณสนใจอยู่นั้น จะเป็นรถบ้านมือสองเจ้าของขายเองหรือรถเต็นท์ ขั้นตอนหลัก ๆ ในการขอสินเชื่อนั้นก็แทบไม่ต่าง ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

1. สำรวจตัวเองก่อนตัดสินใจ “เป็นหนี้” 
สิ่งแรกเลยที่ต้องทำคือ “การสำรวจตัวเอง” ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นหนี้อย่างเป็นทางการ เริ่มตั้งแต่เงินดาวน์สำหรับการซื้อรถมีไหม ? ความสามารถในการผ่อนชำระค่างวดในแต่ละเดือนอยู่ที่เท่าไร ? นอกจากนี้ยิ่งถ้าใครที่ซื้อรถเป็นคันแรก ไม่เคยมีรถมาก่อน ต้องไม่ลืมคำนวนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะตามมาเมื่อมีรถ อย่างเช่น ค่าภาษี, ค่าประกันรถในแต่ละปี ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง จำไว้ว่าเมื่อมีรถแล้วทุกอย่างคือ “ภาระค่าใช้จ่าย” เมื่อคุณชั่งน้ำหนักแล้วมั่นใจว่าเทียบกับรายได้ที่คุณได้รับนั้นไม่หนักเกินไปก็ตัดสินใจซื้อได้ แต่ถ้าคิดออกมาแล้ว หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่างวด ค่าน้ำมันในแต่ละเดือนแล้ว มีเงินเหลือ “หมื่นเหม่” กับรายได้ของคุณ ให้ลองคิดใหม่อีกทีจะดีกว่าไหมก่อนที่จะ “เป็นหนี้” จะนำภาระค่าใช้จ่ายมาสู่ตัวเองและครอบครัว คิดเยอะ ๆ เพราะอย่าลืมว่า ภาระหนี้ก้อนนี้จะต้องอยู่กับคุณไปอีกนานหลายปี 

ดูเพิ่มเติม
>> 
Subaru เตรียมโชว์ Subaru Forester STI ในงาน Tokyo Auto Salon 2019
>> 5 รถยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถแบ็คแพคทั้งครอบครัวไปเที่ยวปีใหม่ได้อย่างจุใจ!

คนไม่เคยมีรถยิ่งต้องคิดให้ดี ว่าภาระในส่วนนี้ไหวแค่ไหน

คนไม่เคยมีรถยิ่งต้องคิดให้ดี ว่าภาระในส่วนนี้ไหวแค่ไหน 

2. เตรียมเอกสาร แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผ่อนชำระ
เขยิบมาที่ขั้นตอนต่อไป ถ้าคุณสำรวจตัวเองแล้ว “ผ่าน” ผ่อนไหว ซื้อได้ ก็มาเตรียมเอกสารเพื่อยื่นให้กับทางสินเชื่อรถยนมือสอง (ไฟแนนซ์) พิจารณาคุณสมบัติของคุณ หลักสำคัญในข้อนี้คือการแสดงเอกสารเพื่อให้ทางไฟแนนซืมั่นใจในความสามารถผ่อนชำระค่างวดรถของคุณ ด้วยการแสดงเอกสารการเงินด้านต่าง ๆ อาทิ สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองรายได้, สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง (อย่างต่ำ 6 เดือน), แผนที่ที่ตั้งของที่อยู่และที่ทำงาน และใบรับรองการทำงาน เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถาบันการเงินเอกสารที่ต้องการประกอบการพิจารณาอาจแตกต่างกันออกไป แต่ปลายทางหลัก ๆ เขาเพียงต้องการที่จะรู้ว่า คุณมีรายได้ประจำอยู่ที่เท่าไรต่อเดือน มีงานมีการเป็นหลักแหล่งไหม มีความสามารถจ่ายหนี้ได้หมดไหมถ้าอนุมัติให้กู้ยืมไปเท่านั้นแหละ 

3. รออนุมัติไม่นานแค่ 3-7 วัน
เมื่อเตรียมเอกสารต่าง ๆ ครบแล้วก็ส่งยื่นได้เลย ซึ่งในขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เจ้าหน้าที่ของทางไฟแนนซ์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำกับคุณว่าเอกสารเรียบร้อยหรือไม่ รายได้ของคุณเพียงพอจะยื่นกู้คนเดียวหรือเปล่าหรือต้องมีผู้ค้ำ ยังขาดเอกสารอะไรอยู่หรือเปล่า เมื่อเอกสารครบเรียบร้อยพร้อมยื่นทางเจ้าหน้าที่ก็จะเก็บเอกสารไปเพื่อส่งให้กับฝ่ายประเมินสินเชื่อ และใช้เวลาในการรออนุมัติไม่นาน ประมาณ 3-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของทางสถาบันการเงิน ซึ่งระหว่างรอนี้อาจจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินสินเชื่อโทรมาสอบถามเรื่องต่าง ๆ กับคุณ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยก็รอฟังข่าวดี “อนุมัติ” จากทางสินเชื่อได้เลย 

ไม่มีประวัติเสีย ไม่เคยติดเครดิตบูโร ก็รอฟังข่าวดี “อนุมัติ” จากทางไฟแนนซ์ได้เลย

ไม่มีประวัติเสีย ไม่เคยติดเครดิตบูโร ก็รอฟังข่าวดี “อนุมัติ” จากทางไฟแนนซ์ได้เลย

โดยปัจจัยที่จะช่วยให้การอนุมัติเกิดขึ้นได้ง่ายนั่นคือ คุณต้องไม่มีประวัติเสียในการผ่อนชำระใด ๆ มาก่อนหน้า ไม่เคยติดเครดิตบูโร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เจ้าหน้าประเมินรู้หมดตรวจสอบได้ ถ้าก่อนหน้านี้คุณมีประวัติไม่ดี มันส่งผลแน่นอนต่อผลการอนุมัติสินเชื่อซื้อรถยนต์มือสองในครั้งนี้ของคุณ    

4. ทำสัญญา “ผ่อนนานดอกบานนะ !”
ถ้าสินเชื่อซื้อรถมือสองของคุณได้รับการอนุมัติแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการทำสัญญา ซึ่งคุณต้องเลือกว่าต้องการระยะเวลาในการผ่อนชำระค่างวดเป็นเวลาเท่าไร ผ่อนไหวแค่ไหนต่อเดือน ซึ่งตรงนี้มีผลต่อจำนวนดอกเบี้ยที่คุณจะต้องเสียด้วย เพราะยิ่งผ่อนนาน 6-8 ปี อัตราดอกเบี้ยก็จะสูงกว่าผ่อนสั้น 3-4 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเอาที่คุณไหวต่องวดด้วย ไม่เป็นภาระมากเกินไป ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณจะต้องมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วตั้งแต่ข้อแรกในเรื่อง “การประเมินตนเอง” เมื่อทำสัญญาเรียบร้อย ทางไฟแนนซ์กับผู้ขายก็จะนัดวัน เวลา กับคุณสู่ขั้นตอนต่อไปคือ “รับรถ” ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนั้นจะนัดเจอกันที่กรมขนส่งฯ   

5. ขั้นตอนสุดท้าย ตรวจสภาพพร้อมรับรถ 
ทางผู้ขายจะต้องให้เล่มทะเบียนรถกับทางไฟแนนซ์ เพื่อโอนเปลี่ยนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของไฟแนนซ์ ที่จะต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนด้วย จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องนัดรับรถที่กรมขนส่งฯ โดยในเล่มแม้ชื่อกรรมสิทธิ์จะเป็นของไฟแนนซ์ แต่ชื่อผู้ครอบครองจะเป็นชื่อของคุณ และเมื่อขั้นตอนต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณมีเงินดาวน์ก็จ่ายไปกับทางผู้ขาย ส่วนค่ารถที่เหลือทางไฟแนนซ์จะให้เป็นเช็คเงินสดแก่ผู้ขาย ซึ่งนั่นแหละคือสินเชื่อที่คุณทำเรื่องกู้ยืมไว้ และไฟแนนซ์จะระบุวันที่คุณต้องชำระค่างวด “งวดแรก” แล้วคุณก็สามารถขับรถกลับบ้านได้เลยเป็นอันเสร็จขั้นตอน 

เมื่อตรวจสภาพรถเรียบร้อย จ่ายเงินดาวน์(ถ้ามี) ก็รับรถได้เลย  ผู้ขายกับไฟแนนซ์จะไปเคลียร์ส่วนที่เหลือกันเอง

เมื่อตรวจสภาพรถเรียบร้อย จ่ายเงินดาวน์(ถ้ามี) ก็รับรถได้เลย 
ผู้ขายกับไฟแนนซ์จะไปเคลียร์ส่วนที่เหลือกันเอง 
 

ทั้งนี้เอกสารที่คุณจะได้คือสำเนาของหน้าเล่มทะเบียนที่คุณต้องเก็บไว้คู่รถเพื่อแสดงว่าเป็นเจ้าของรถ และจะได้เล่มทะเบียนก็ต่อเมื่อผ่อนชำระครบเรียบร้อยกับทางไฟแนนซ์แล้ว   

และทั้งหมดนี้คือ Chobrod Five Fact ประจำสัปดาห์สำหรับ 5 ขั้นตอนการขอสินเชื่อ (ไฟแนนซ์) ซื้อรถยนต์มือสอง ง่าย ๆ ทำไม่ยากใช่ไหมสำหรับใครที่ต้องการจะซื้อรถมือสองสักคัน สำคัญที่สุดคือข้อแรก “การสำรวจตัวเอง” ว่าพร้อมหรือยังที่จะมีรถ จะซื้อรถเพื่อมาสร้างความสุขหรือสร้างภาระหนักอึ้งให้ปวดหัวก็อยู่ที่ขั้นตอนแรกนี่แแหละ และถ้าคุณเห็นว่ารถคันที่จะซื้อโดยผ่านสินเชื่อรถยนต์นี้มันสร้างความสุขได้มากกว่าให้ทั้งกับคุณและคนที่คุณรักแล้วละก็

ซื้อได้เลย...  

ดูเพิ่มเติม
>> 
มาแล้วจ้า !! SUV คันแรกจากค่าย Urus “Lamborghini Urus 2019” ราคาจำหน่าย 23,420,000 บาท
>> ว่าด้วยเรื่อง “สินเชื่อรถยนต์” เปลี่ยนรถเป็นเงิน กู้ได้ ไม่ยุ่งยาก..

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่